‘ธนาธร-ปิยบุตร’ ประกาศชัด จะไม่ขอเข้าร่วมชุมนุมกับ เยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา หวั่นถูกโจมตีอยู่เบื้องหลัง

ในรายการ “ก้าวหน้า Talk : คุณถาม เราตอบ” ตอนที่ 4 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า พูดคุยถึงประเด็นร้อนทางการเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือกรณีการชุมนุมของประชาชน นิสิต นักศึกษาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ และกำลังจะมีการชุมนุมใหญ่ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พร้อมด้วยการคุกคาม ติดตาม และจับกุมตัวแกนนำนักศึกษา

นายปิยบุตร กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นกลวิธีหรือเทคนิคในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อจำกัดเสรีภาพประชาชน โดยตั้งข้อหาให้มาก ออกหมายจับให้มาก แล้วเลือกจับทีละนิดทีละคน เพื่อให้การชุมนุมค่อยๆ อ่อนกำลังลงไป

ในการจับทนายอานนท์ นำภา และไมค์ ภานุพงศ์ จาดนอก เยาวชนระยอง ล่าสุดศาลอาญาออกหมายเรียกไต่สวน วันที่ 3 กันยายน ฐานฝ่าฝืนเงื่อนไขประกันที่ห้ามทำผิดซ้ำเดิม ซึ่งกรณีนี้ก็มีปัญหาทางกฎหมายอยู่มาก เช่น เมื่อส่งตัวศาลบอกให้ตำรวจกลับไปทำสำนวนใหม่ ซึ่งทนายบางท่านบอกว่า ตามมาตรา 68 ป.วิอาญา ทำให้หมายจับนั้นสิ้นสภาพไปแล้ว ต้องไปขอศาลเพื่อออกหมายจับใหม่ หากแต่ตำรวจก็ยืนยันว่ามีอำนาจในการควบคุมตัวอยู่ นอกจากนี้เมื่อส่งศาลอีกรอบ และศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามไปกระทำผิดซ้ำอีก

ปัญหาคือนี่เป็นเพียงการตั้งข้อกล่าวหาในชั้นเจ้าพนักงานสอบสวนเท่านั้น รัฐธรรมนูญรับประกันว่าทุกคนบริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากพา น่าแปลกใจว่าแล้วศาลตั้งเงื่อนไขการประกันตัวแบบนี้ได้เหรอ? ถ้าตั้งเงื่อนไขว่าห้ามไปกระทำความผิดซ้ำ นั่นหมายความว่าในสายตาของศาลมองว่าเขากระทำผิดแล้วเหรอ ทั้งที่ยังเป็นข้อกล่าวหาอยู่

“นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมปราศรัย 10 ส.ค. ที่ มธ.รังสิต ซึ่งตามประกาศฉุกเฉินที่ออกมาตั้งแต่ 1 ส.ค. บอกว่าการชุมนุมให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีข้อยกเว้นว่าถ้าชุมนุมในสถานศึกษาไม่ต้องแจ้ง ก็รอดูการไต่สวนว่าจะเป็นอย่างไร แต่อดคิดไม่ได้ว่าสถานการณ์ทำไมประจวบเหมาะกับการที่ตำรวจชอบจับกุมตัววันศุกร์และก็แปลกใจว่าศุกร์ที่แล้วเพนกวินปราศรัยหน้า สน.บางเขน ทำไมไม่จับ เลือกจับวันศุกร์

อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่คิดอะไรอยู่ การปฏิบัติหน้าที่อ้างทุกครั้งว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหน้าที่ ไม่ทำมีความผิด มีผู้บังคับบัญชาสั่งมา แต่อยากบอกว่าท่านกินภาษีประชาชน ผู้บังคับบัญชาท่านและระบอบที่สังกัดตอนนี้ไม่ยั่งยืนเสมอไปจะมีวันล่มสลายอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว วันนั้นท่านอาจจะนึกเสียใจ นิสิต นักศึกษาเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน เขาเพียงแค่อยากมาเรียกร้อง ทนเห็นสภาพบ้านเมืองแบบนี้ไม่ไหว แต่ทำราวกับอาชญากร อย่างนี้ คนก็อดเปรียบเทียบคดีของ #บอสอยู่วิทยา ไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ขยันกวดขันกันมากกว่านี้ก็คงหนีไม่ทัน แต่กับนักศึกษาตามทุกฝีก้าว สังคมกำลังตั้งคำถามถึงมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม” ปิยบุตร กล่าว

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า การข่มขู่คุกคาม ลิดรอนสิทธิ เสรีภาพประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่อานนท์ ไมค์ และเพนกวิน แต่มีในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เช่น กลุ่มเยาวชนปลดแอกปัตตานี ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารไปติดตาม นักศึกษาในภาคอีสานหลายคนก็โดน

ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามข่มขู่ให้ประชาชนกลัว ติดต่อไปที่เพื่อน ที่ครอบครัว หรือตามไปถึงบ้าน และยิ่งล่าสุดก็มีแผนผังกลุ่มบุคคลที่ปราศรัยเมื่อ 10 ส.ค. ซึ่งมีถึงรายชื่อคนสั่งน้ำแข็งอยู่ในผังแล้ว ผังลักษณะนี้เป็นของหน่วยงานความมั่นคงแน่นอน

นี่คือความพยายามจัดการแกนนำอย่างเป็นระบบ นี่คือการทำให้กลัว พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาทีละเล็กน้อยให้รู้สึกกังวล ให้สูญเสียเวลา สูญเสียทรัพยากร สูญเสียกำลังใจ ต้องเรียนอยู่แล้ว เรียกร้องรณรงค์อยู่แล้ว ยังต้องจัดการเรื่องคดีอีก

“สำหรับข้อเรียกร้อง หยุดคุกคามเสรีภาพของประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา ทั้ง 3 เรื่องเกี่ยวเนื่องกัน สัปดาหาห์ก่อนมีการตั้ง กมธ. รับฟังเสียงเรียกร้องนักศึกษา ขณะที่ก็ให้เจ้าหน้าที่ไล่คุกคามยัดข้อหาให้กับแกนนำ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าความพยายามรัฐบาลฟังนักศึกษาและหาทางออกประเทศนั้นไม่เป็นจริง แค่ข้อเรียกร้องแรกก็ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว ดังนั้นเวลาแบบนี้อย่าปล่อยให้คนลุกขึ้นมาสู้โดดเดี่ยว เราเป็นกำลังใจ เป็นกำลังกายให้กัน ผมเห็นว่าอนาคตของประเทศตอนนี้อยู่ในมือเยาวชนนักศึกษา เขาจะเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ เราให้กำลังใจเต็มที่” ธนาธร กล่าว

นอกจากนี้ธนาธร ยังระบุสาเหตุที่ตนเองและปิยบุตรไม่ไปร่วมชุมนุมว่า การไปร่วมชุมนุมในวันนี้น่าจะเป็นโทษกับนักศึกษามากกว่าเป็นคุณ เพราะจะถูกโจมตีว่าอยู่เบื้องหลัง อนาคตอยู่ในมือนักศึกษา ประเทศไทยจะไปในทิศทางไหน เยาวชนนักศึกษาเป็นคนตัดสิน โดยพร้อมเป็นกำลังใจและปกป้องอยู่ข้างหลัง