นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
ยอมสูญเสียอิสระภาพเพื่อปฏิรูป?
ค่ำวันที่ 22 มกราคม 2564 ผมเชิญแกนนำ กปปส.พัทลุง มากินข้าวที่บ้าน เนื่องจากวันที่ 25 มกราคม ศาลฎีกาจะตัดสินคดีขัดขวางการเลือกตั้ง คล้ายกับบอกว่า หากเขาถูกลงโทษก็ถือว่า เป็นการดื่มกินเพื่อสั่งลาก่อนจะจากกัน แต่หากโชคดีศาลเมตตาก็ถือว่ามาแสดงความยินดีกันล่วงหน้า แต่สุดท้ายก็มีบางคนโชคดี และมีบางคนโชคร้าย บางคนได้ออกมาเพราะศาลรอการลงโทษจำคุก แต่บางคนต้องเสียอิสระภาพถูกจองจำ
คืนวันที่ 22 ผมนำเครื่องดื่มที่ดีที่สุดที่มีออกมารับรอง ก็ครึ้มอกครึ้มใจกัน แอลกอฮอล์พอจะกลบเกลื่อนแววตาที่กังวลไปได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถปิดบังได้ทั้งหมด ผมถามว่า ถ้าย้อนเวลากลับจะชุมนุมประท้วงอีกหรือไม่ ทุกคนตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า”จะทำอีก” เพราะสถานการณ์ที่รัฐบาลขณะนั้นออกกฎหมายนิรโทษกรรม และแก้รัฐธรรมนูญให้สว.ดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระ เป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้ ผมเชื่อว่า คนจังหวัดผม 80 % ก็ออกมาคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่มีเพียงผู้กล้าทั้ง 11 คน เดินออกมาข้างหน้าเป็นผู้นำ สุดท้าย รัฐบาลสมัยนั้นก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมไม่ได้ คนทำผิดก็ยังไม่ได้กลับเมืองไทย
สำหรับผมเมื่อยับยั้งกม.นิรโทษกรรม และยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ผมก็ยุติความเคลื่อนไหว ความผิดพลาดมันอยู่ตรงไหนหรือ มันอยู่ตรงที่บางคนบอกว่าต้อง”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ผมรู้ว่าการปฏิรูปสำหรับเมืองไทยมันเป็นวาทะกรรมเสียมากกว่าที่จะเป็นจริง ผมเลยบอกว่า ถ้ารถไฟขบวนนี้จะไปสุดปลายทางที่สถานีหัวลำโพง ผมลงแค่สถานีสามเสนเท่านั้น จากปี 2557 จนถึง 2564 เราปฏิรูปได้จริงหรือเปล่า หรือ เราเดินถอยหลัง ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ยึดอำนาจในปี 2557 เพราะท่านยังคงดำรงตำแหน่งอย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่ปี 2557 แต่เพื่อนพ้องน้องพี่ของผมผู้ต้องการปฏิรูปต่างทะยอยเดินเข้าคุกกันเป็นแถว
จะอย่างไรก็ตามผมให้กำลังใจครอบครัวผู้ถูกจองจำ จำชื่อผมไว้ สิ่งไหนผมช่วยได้ ผมช่วย เสียดายเหลือเกิน แกนนำใหญ่บางคนปฏิเสธแม้แต่จะช่วยเสียค่าปรับให้พี่น้องผม.
