ญาติวีรชนฯ จวก ‘บิ๊กตู่’ สมคบ ‘มีชัย’ บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ

ประธานญาติวีรชนฯ จวก “ประยุทธ์” สมคบคิดกับ “มีชัย” บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ ปลุกผู้เกี่ยวข้องออกมาแฉความสกปรกของวงการสีกากี ร่วมกันผลักดันปฏิรูปตำรวจให้สำเร็จแต่หากพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีภาวะผู้นำต้องช่วยกันขับไล่

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35และอดีตกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างปรองดองแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการญาติวีรชนฯเคยแนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติและปฏิรูปประเทศสะสางความสกปรกที่ทำไว้แต่บัดนี้ล่วงเลยเวลามาเนิ่นนานแล้ว บ้านเมืองกำลังเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ประชาชนดำรงชีวิตอยู่อย่างยากลำบากไร้ความหวังลูกหลานเยาวชนมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังแก้ปัญหาแบบราชการไร้วิสัยทัศน์ ไร้ภาวะผู้นำ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19รอบใหม่ ซึ่งเกิดจากการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยให้มีการค้าแรงงานต่างด้าวและบ่อนการพนันสร้างความหายนะต่อระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างย่อยยับ แทนที่จะเร่งลากคอเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตปลดไล่ออกผู้นำหน่วยงานนั้นรวมทั้งเอาตัวเจ้าของบ่อนมาลงโทษกลับไปตั้งกรรมการซื้อเวลาซ้ำซากเท่ากับเป็นการสมคบคิดและมีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ด้วย

นายอดุลย์ กล่าวว่า ตลอดเวลที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามามีอำนาจได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้มีแนวคิดที่จะปฏิรูปประเทศ เพื่อวางรากฐานไว้ให้ลูกหลานในอนาคต การปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องมาตลอด มีการตั้งคณะกรรมการมาหลายชุดแล้วก็ไม่สำเร็จ ล่าสุดร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจที่เพิ่งผ่านครม.และกำลังเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันอังคารที่9กพ.นี้ ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการลักไก่ หมกเม็ด แปรงสาร แต่ตนคิดว่าเป็นการ”สมคบคิด”กับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความสับสนกับสังคม บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ เพียงเพื่อและรักษาประโยชน์ของพวกตัวเอง เหมือนกับการร่างรัฐธรรมนูญทุกครั้ง ที่เป็นต้นเหตุการเสียเลือดเนื้อของประชาชนและความพินาศฉิบหายของประเทศ

“ขอเรียกร้องให้ผู้ที่เคยมีประสบการณอยู่ในวงการธุรกิจสีเทา เช่น คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คุณสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกมาแฉความสกปรกเน่าเฟะของวงการว่ามีธุรกิจสีเทาอยู่ที่ไหนบ้าง จ่ายส่วยสินบนให้นายตำรวจหรือฝ่ายการเมืองคนไหนบ้าง และร่วมกันจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจฉบับสมคบคิดเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องจนประชาชนจะหมดความอดทนในไม่ช้า และขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนช่วยกดดันให้เร่งปฏิรูปตำรวจซึ่งเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรมที่สำคัญให้สำเร็จโดยเร็วมิเช่นนั้นบ้านเมืองจะล้าหลังและเกิดความเสียหายเหมือนการระบาดโควิดรอบสองอีก แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีภาวะผู้นำที่จะปฏิรูป ยังสมคบคิดกันอีก ก็ต้องช่วยกันกดดันและพิจารณาว่าพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลนี้เหมาะสมที่จะบริหารประเทศต่อไปหรือไม่”นายอดุลย์ กล่าว