ศาลยุติธรรมแจงยกฟ้องคดีแทงลูกชาย ทำพ่อผิดหวังกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายอายุประมาณ 40 ปี ได้กระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตกลงมาเสียชีวิต หลังจากเกิดความเครียดเนื่องจากศาลมีคำพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหา ในคดีที่บุตรชายถูกแทงเสียชีวิตเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 นั้น

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงรายละเอียดคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่นฯ หมายเลขดำ อ.1089/60 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายณัฐพงษ์ เงินคีรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฯ กรณีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2559 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงบริเวณร่างกายนายธนิต ทัฬหสุนทร จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีไป เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 ประกอบ 83

เหตุเกิดบริเวณ ถ.ประชาสังคมสงเคราะห์ 1 ดินแดง กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิด โดยคดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง เหตุผลโดยสรุป คือ ประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์และให้การไว้ในชั้นสอบสวน ไม่อาจมาเบิกความในชั้นศาลได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาล จึงต้องรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนที่นำส่งในชั้นศาลประกอบพยานหลักฐานอื่น แต่พยานหลักฐานอื่นยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีผู้คนเป็นจำนวนมาก ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในชั้นศาลนั้น เห็นแต่เพียงเหตุการณ์ปากทางเข้าซอยที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถบันทึกภาพบริเวณจุดเกิดเหตุไว้ได้ ดังนั้น เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง

อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นเพียงการพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น ฝ่ายโจทก์ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีตามกฎหมายได้ต่อไป ซึ่งในชั้นอุทธรณ์ ผู้พิพากษาที่ปฏิบัติหน้าที่ก็จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โดยปราศจาความกดดันหรือคติใดๆ ขอยืนยันว่าศาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทำหน้าที่ของตนเองมาอย่างดีที่สุดแล้ว

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความรู้สึกในมุมมองของตัวเอง ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการทำหน้าที่ของทุกฝ่ายในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงศาลด้วยนั้น ขอเรียนว่า กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าผู้เสียหายหรือจำเลยในคดี การพิจารณาพิพากษาก็ดูจากพยานหลักฐานในสำนวน ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานตามกฎหมาย แต่แม้เราจะเชื่อมั่นว่าเราทำงานอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทุกฝ่ายก็ไม่สบายใจและเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่เราก็จะยืนหยัดทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดต่อไป ขณะเดียวกันก็จะให้ความรู้ความเข้าใจ และอธิบายขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายให้แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด