ม็อบรวมสีสุดคึก ‘จตุพร’ ยกระดับคนทุกวัย ขับไล่ ‘ประยุทธ์’ ทุกวัน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ผู้ร่วมชุมนุมเบิกฤกษ์รหัส 4-4-4 ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ได้ประกาศนัดรวมพลังคนไทยไม่ทนอีกครั้งในวันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 4 โมงเย็น และสถานที่เดิมหน้าอัฐิวีรชนพฤษภา 35

พร้อมเชื่อว่า เมื่อทุกฝ่ายไปประชุมหารือกัน ต่างรู้ว่าปัญหาของชาติอยู่ตรงไหน ดังนั้นเราพร้อมเปิดรับทุกฝ่าย เราจะหลอมรวมคนไทยหัวใจประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ร่วมต้อนรับทุกฝ่ายมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์

“ต่อให้ 10 ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็สู้ประชาชนไม่ได้ แต่หากแยกสู้กันประยุทธ์จะอยู่ต่อไป ถ้าสามัคคีกันประยุทธ์ออกไป ดังนั้นสวนสันติพรเป็นฐานปฏิบัติการหลัก และวันพรุ่งนี้ (5 เมษา) จะนัดชุมนุมกันใหม่ในเวลา 16:00 น.ถึง 21:00 น. จะไล่กันทุกวัน เว้นวันที่ 6 เม.ย. และมาใหม่วันที่ 7 เม.ย.เพื่อให้พี่น้องได้ไปร่วมในกิจกรรมในวันที่ 6 เม.ย.นี้” นายจตุพร ประกาศระหว่างปราศรัยปิดการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 4 เมษา ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวถึงการถูกป้ายสี บิดเบือน ใส่ร้าย ว่า หลายวันที่ผ่านมาตนเจอสารพัดทั้งซีกรัฐบาล หรือไม่ว่าซีกไหนเข้ามายังตน แต่เชื่อว่า หลังจากวันนี้ (4 เมษา) ซึ่งเป็นวันเบิกฤกษ์ขับไล่แล้ว “ฯพณฯ ท่านเสกสกล อัตถาวงศ์ และนายกรัฐมนตรีคงนอนไม่หลับ”

“การมาเริ่มต้นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และการเริ่มต้นในการต่อสู้ชีวิตผม มีการตั้งข้อกล่าวหาว่ารับงานใครมา ผมอยากบอกว่าสถานที่แห่งนี้ประวัติศาสตร์การต่อสู้เมื่อ 29 ปีที่แล้ว มีความศักดิ์สิทธิ์ ในอนุสรณ์สถานแห่งนี้คือที่บรรจุอัฐิวีรชนที่พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย”

นายจตุพร ย้ำว่า ตนรับคำเชิญมาโดยไม่ต้องพูดอะไร เพราะตนคือคนในเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬซึ่งนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ก็ได้เสียกับลูกในเหตุการณ์นี้และบอกว่าชีวิตที่เหลืออยู่อยากเห็นประชาธิปไตย และภารกิจเดียวคือไล่ประยุทธ์ออกไป ตนจึงรับคำเชิญโดยไม่ลังเลใจ

รวมทั้ง ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ประยุทธ์ เป็นคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากความขัดแย้ง (ทุกสีเสื้อ) นี้ ดังนั้น ความเจ็บปวดที่ยังดำรงอยู่ วางเอาไว้ก่อน รวมตัวกันขับไล่ประยุทธ์ ออกไปเสียก่อน พร้อมฉายภาพจากเข้าสู่อำนาจของ ประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจโดยให้ เขียนรัฐธรรมนูญตามใบสั่งซึ่งตนเคยพูดมาตลอดทุกที่ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เลวทรามที่สุด และเป็นเหมือนพินัยกรรมที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ได้ร่างไว้ให้คนที่รับผลจากพินัยกรรมก็คือประยุทธ์ จันทร์โอชา

อีกอย่าง ในพินัยกรรมบาปได้ให้ ส.ว. 250 เป็นคนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่พอโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญเหลือเพียง 2 คน ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประยุทธ์ ไม่ต้องการให้แก้ไข เพราะคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือ ประยุทธ์ และไม่มีท่าทีว่าจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

“ผมไม่อาจยอมรับได้กับการตระบัดสัตย์ของประยุทธ์ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่บอกว่าจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็ตระบัดสัตย์ ปราบทุจริตคอรัปชั่นก็ตระบัดสัตย์”

นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนเรื่องมาตรา 112 คนที่ต้องถูกประณามมากที่สุดคือประยุทธ์ เพราะเป็นคนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะไม่เอาโทษมาตรา 112 มีคนไปหลงเชื่อและประยุทธ์ก็มาเอาโทษทีหลัง คนที่หลงเชื่อก็ติดคุก แล้วประยุทธ์ก็เป็นนายกต่อแต่คนที่เดือดร้อนทั้งขึ้นทั้งลงคือสถาบันฯ

เรามาคราวนี้ไม่ได้มากันแบบคิดเล่นๆ เมื่อนายอดุลย์ชวนมาและได้พูดต่อหน้าดวงวิญญาณวีรชน ตนอยากบอกว่านี่เป็นพลังเราเคยสู้กับพล.อ.สุจินดา คราประยูร มาอย่างไรเราจะสู้กับประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างนั้น

อีกทั้ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครอดทนได้เท่ากับคนไทยอีกแล้ว เดือดร้อนมากที่สุด โรงงานปิดมีคนเดือดร้อน คนที่อยู่ได้คือรัฐบาล ดังนั้น เรามีความจำเป็นที่จะต้องหลอมรวมทุกฝ่ายสามัคคีประชาชน

“เมื่อชื่อไหนมาไล่ก็ไล่ไม่ไป ผมมีชื่อเล่นว่า “ตู่”เหมือนกัน เอา “ตู่ไล่ตู่” อย่างนี้แหละจะได้รู้ว่าใครจะฉิบหายก่อนกัน ผมอยากสื่อความไปยัง ตู่-ประยุทธ์ว่าเพื่อนผมที่ชื่อนายเสกสกลนั้น เพื่อนคนนี้ไม่ว่าอยู่แก๊งไหนหัวหน้าแก๊งตายหมด วันที่ผมรู้ว่าแรมโบ้อยู่กับประยุทธ์ ผมดีใจมากที่สุด เพราะรู้ว่ามีคนจัดการกับประยุทธ์ ได้แล้ว เพราะขนาดย่าโมยังกล้าต้มไปถอนหญ้า ถอนสำสาบานได้เลย”

นายจตุพร ยืนยันไม่มีวันทรยศต่อการต่อสู้ของภาคประชาชน ตนรอถึงฤกษ์วันที่ 4 เดือน 4 เวลา 4 โมงเย็น ได้เวลาไล่ประยุทธ์ ร่วมมือกันทุกสีเพื่อไล่ประยุทธ์ออกไป วันนี้หลายคนออกมาบอกว่าอย่าทำความเดือดร้อนอีก ตนอยากบอกว่าไม่เป็นไร เพราะวันนี้คดีของตนมีจำนวนมากเพิ่มไปอีก 1 คดีไล่ประยุทธ์ออกไปสถานเดียวจะเป็นอย่างไรไป

“ผมอยากให้คนดีที่เป็นคนดีอย่างแท้จริงไม่ใช่คนดีที่สถาปนาตัวเองว่าเป็นคนดี แต่เป็นคนดีที่ประชาชนเชื่อว่า เป็นคนดีมาเป็นนายกรัฐมนตรีของแผ่นดินนี้ ไม่ใช่คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ตระบัดสัตย์ดังเช่นปัจจุบันนี้”

พร้อมย้ำว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนคิดแล้วคิดอีกว่าศึกนี้ยิ่งใหญ่ และเป็นงานที่ยากลำบากแต่หากไม่ทำในวันนี้ภารกิจอันนี้จะตกถึงคนรุ่นลูกรุ่นหลานเรา ดังนั้นขอให้เป็นความรับผิดของคนใกล้ฝั่งอย่างพวกเราจัดการกับเผด็จการตัวสุดท้ายนี้เสีย อย่าให้เผด็จการและคนสะบัดสัตว์อยู่ในแผ่นดินนี้เลย

จากนั้น นายจตุพร ประกาศให้พี่น้องทุกคนยืนประกาศสัญญาใจด้วยกันสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ สู้จนกว่าแผ่นดินนี้จะไม่มีประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเราไม่มีประโยชน์ส่วนตน มีแต่หัวใจมอบให้กับแผ่นดินนี้ ก่อนแจกเสื้อสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยให้มวลชนคนละ 1 ตัว