ประชาธิปัตย์ส่ง ‘แทนคุณ’ ฉีกข้อเสนอ ‘กลุ่มไทยไม่ทน’

จตุพร ปะทะคารม แทนคุณ

ภายหลังจาก “กลุ่มไทยไม่ทน” นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ยื่นหนังสือต่อพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(24 พ.ค.2564) เพื่อเรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เกิดการปะทะคารมกันขึ้นระหว่างนายจตุพร กับ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ที่รับยื่นหนังสือ

โดยแทนคุณ กล่าวถึงสาเหตุพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาล ว่า เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 62 พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นทางเลือกที่สาม แต่เมื่อพรรคไม่ได้รับเลือกจากประชาชน จึงเหลือเพียง 2 ทาง คือ ฝั่งนายทักษิณ ชินวัตร และฝั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์สู้กับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย โดยตนได้คุยกับนายอดุลย์ ซึ่งนายอดุลย์ก็เห็นด้วยว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะไปอยู่ด้วยกับพรรคเพื่อไทยหายนะหนักกว่าเดิม

นายจตุพร ตอบโต้ว่า ตนให้เกียรตินายแทนคุณ แต่วันนี้มาด้วยเรื่องวาระ7 ปี ปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ วันนี้มีการทุจริต ความจริงไม่ใช่มีสองทางเลือก นักการเมืองต้องไม่ทำตัวเหมือนนักเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกพรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ แต่ต้องเลือกตามที่พรรคให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน แต่ถ้ากล่าวอ้างอดีตเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ วันนี้ถ้าประเทศไทยมีแค่นักเลือกตั้ง จะไม่มีวันได้เดินถึงประชาธิปไตย การกล่าวอ้าง แสดงเรื่องรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นคนจริงที่ประกาศไว้กับประชาชน เมื่อผู้นำรัฐบาลยอมตระบัดสัตย์ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ประกาศไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรี คนไทยยังไม่ให้อภัย

“อย่ากล่าวอ้างว่าประชาธิปัตย์มีแค่ 2 ทางเลือก วันนั้นพรรคประชาธิปัตย์อยู่กับตัวเอง อยู่กับประชาชนได้ วันนี้ที่เรามาก็เพราะอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เห็นแก่คำพูดตัวเอง ใครทุจริต ถ้าพรรคประชาธิปัตย์สะอาดถึงขนาดนั้นก็ว่ากันไป แต่เราอย่าใช้วิธีนักเลือกตั้ง วันนี้เรามาชวนเพื่อหาทางออกจากวิกฤต แต่ถ้าอธิบายแบบนักเลือกตั้งกระจอกๆ คุณมาเถียงอะไรกับผม คุณจะสู้อะไรผมได้” นายจตุพร กล่าว และว่า “วันนี้พวกเรามาทวงสัญญาที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศไว้ ยามที่ประเทศอยู่ในภาวะแบบนี้ ชื่อคุณคือ แทนคุณ คุณก็ต้องแทนคุณ ไม่ใช่อธิบายแบบนักเลือกตั้งกระจอกๆ อย่าเอามาใช้กับผม”

ทำให้ นายแทนคุณ สวนกลับไปว่า จะบอกว่าใครกระจอกไม่กระจอก ตนจะไม่ตอบโต้ในประเด็นนี้ ส่วนเรื่องยกตัวว่าใครจะมาสู้อะไรกับนายจตุพรได้ ก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าสู้กันจริงๆ ตนก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ตนก็เคารพหลักการประชาธิปไตย การให้ถอยและทิ้งภารกิจที่ให้ทำอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่วิถีทางของนักสู้จริงๆ ความจริงถ้าถอยต้องดูว่าใครจะได้ประโยชน์ นายจตุพรจะได้ประโยชน์หรือไม่ อาจมีความสุข หรืออาจจะมีกระบวนการอื่นสนับสนุนหรือไม่ แต่เอาเป็นว่าจากประสบการณ์ทางการเมืองอันน้อยนิด ยังเชื่อว่าสู้บนครรลองอุดมการณ์ ไม่ทำให้ประเทศชาติตกหลุมเดิมๆ

“คุณแทนคุณดูถูกก่อน ผมจึงต้องบอกว่าวิธีการใช้ไม่ได้ ยิ่งมาเป็นตัวแทน วันนี้ประเทศเกิดวิกฤต ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมถอดสลักการเมือง ก็ช่างหัวประชาธิปัตย์เท่านั้น” นายจตุพร กล่าว ส่วนนายแทนคุณ กล่าวว่า “ผมต้องอธิบายให้ฟังว่าสิ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เลือกแตกต่างระหว่างก่อนและหลังเลือกตั้ง คืออะไร”

ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย นายอดุลย์ เข้าตัดบท ว่า “มาวันนี้เพื่อขอให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยบ้านเมืองถอดสลักโดยถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่พูดเรื่องในอดีตเพราะทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ถามว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ลาออก ตนได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ วันนี้เพียงแค่มาบอกว่าบ้านเมืองเกิดวิกฤตขอให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยถอนตัว”

ช่วงท้ายก่อนแยกย้าย นายจตุพร ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว วันนี้ก็ขอให้นายแทนคุณรับข้อเสนอของกลุ่มไทยไม่ทน ไปหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และจะไม่ตอบโต้กันแล้ว เพราะจะไม่จบ.