ทนายตั้ม เผยถูกสั่งฟ้องตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ก็งงเหมือนกันทำไมเพิ่งเป็นข่าว

ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายตั้ม

จากกรณีความคืบหน้าการสั่งคดี ที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ,ร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา

คดีนี้ หลังจากตำรวจ สน.มีนบุรี สรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการคดีอาญามีนบุรี 1 ทางพนักงานอัยการ ได้ตรวจสำนวนแล้ว เห็นว่า มีการเบิกความเท็จในชั้นศาล โดยทางตำรวจ ได้แจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 180 ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท

แต่อัยการเห็นว่า พฤติการณ์ที่มีการนำสืบพยานเป็นเท็จในคดีที่มีโทษประหารชีวิต เข้าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 181 ว่าผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 180 ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 300,000 บาท

ดังนั้น พนักงานอัยการ จึงสั่งให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้สอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหากับ ทนายษิทธา เพิ่มเติม ตามมาตรา 181 ซึ่งเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษที่สูงขึ้น พร้อมกันนี้ พนักงานอัยการคดีอาญามีนบุรี 1 ยังได้นัดให้ ทนายษิทธา มาฟังคำสั่งทางคดี ในวันที่ 1 ก.ค. 64 นี้

ล่าสุดนายษิทรา เปิดเผยถึงเรื่องนี้ “อันที่จริงคดีนี้ตำรวจสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องส่งอัยการไปตั้งนานแล้วนะครับน่าจะหกเดือนได้แล้ว ผมก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเพิ่งมามีข่าววันนี้เหมือนเพิ่งสรุปสำนวน งงเหมือนกัน”

สำหรับคดีนี้ ทนายษิทธา ถูกกล่าวหาว่า ได้ นำเอกสารบัตรข้าราชการตำรวจไปปลอมแปลงลายเซ็น เพื่อใช้ในการยื่นต่อศาลในการขอลดโทษ พ.ร.บ.ยาเสพติด มาตรา 100/2 ในคดีที่ นางสาวอาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตนางเอกสาวชื่อดัง ตกเป็นจำเลยในคดียาเสพติด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งศาลจังหวัดมีนบุรีได้ออกหมายจับนายษิทรา และถูกตำรวจจับกุมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี