‘วรงค์’ เปิดใจเคยเลือกพรรคเก่าแก่ แต่เปลี่ยนใจเลือกพรรคของทักษิณ เพราะช่วยคนจน รวยแล้วไม่โกง

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีรายละเอียดดังนี้

วันเกิดทักษิณ

วันที่ 26 ก.ค. ครบรอบวันเกิดนายทักษิณ มีการปล่อยคลิปเด็ด ที่สังคมไทยต้องจับตามอง โดยเฉพาะวลีเด็ด

“ผมเองผมสั่งครอบครัวแล้วนะ ตายไม่เผา ให้เก็บไว้ เก็บร่างไว้ ไม่ให้เผา นี่คือสิ่งที่ผมต้องการให้การต่อสู้ของผม ให้ชีวิตผมเป็นอมตะของครอบครัว ของลูกหลาน”

ผมเห็นสิ่งที่นายทักษิณพูด มันสะท้อนตัวตนที่น่าสนใจของนายทักษิณ ที่หลายคนพูดว่า โกหกตัวเอง จนตัวเองเชื่อ ในสิ่งที่ตนเองโกหก

ผมจำได้ว่า เมื่อผมสนใจการเมืองใหม่ๆ โดยปกติ ผมจะเลือกพรรคเก่าแก่มาตลอด แต่ผมเลือกพรรคนายทักษิณ เพราะผมคิดว่าเขารวยแล้ว ไม่โกง คงอยากมาช่วยคนยากคนจน

หลังจากที่ผมได้ศึกษาข้อมูล พบว่าเขามีวิธีการโกงที่แยบยล ที่เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย โดยเฉพาะโครงการดาวเทียมไทยคมที่ผมศึกษา ผมคิดเลยว่า คนแบบนี้อันตรายมาก โกงชาติจนร่ำรวยแล้ว ยังไม่สำนึก

ผมแปลกใจมากที่เขาและบริวาร กล้าโจมตีการรัฐประหาร และผลพวงของการรัฐประหาร ทั้งๆที่เขาร่ำรวย จากโครงการดาวเทียม ที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร มีภาพแชร์ในโซเชียล ที่ถ่ายภาพกับพลเอกสุนทร คงสมพงษ์

หลังจากนั้นมาตลอด ผมเจอคำพูดที่กลิ้งกลอก จนผมมีความรู้สึกว่า คนๆนี้แปลก พูดโกหก โดยไม่มีสำนึกแม้แต่น้อยว่า ตนเองสร้างปัญหาต่อชาติบ้านเมืองขนาดไหน ทุจริตขนาดไหน ทั้งๆที่ศาลฎีกาก็ตัดสินแล้ว แต่พยายามสื่อสารว่า ถูกกลั่นแกล้ง

การออกมาพูดเนื่องในวันเกิดว่า ตายแล้วไม่ต้องเผา เพื่อสะท้อนการต่อสู้ของตนเอง มันก็บ่งบอกความคิดนายทักษิณเหมือนเดิม คือไม่มีสำนึกแม้แต่น้อยว่า ตนเองทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ทำเหมือนกับว่าตนเองเก่ง ดี มีความสามารถ แล้วถูกกลั่นแกล้ง
.
ผมไม่ได้กล่าวหานายทักษิณ แต่ผมเคยอ่านหนังสือเจอ โรคหลอกตัวเอง หรือโกหกตัวเอง ที่ในวงการจิตวิทยาเรียกว่า Pathological Liar คืออาการผิดปกติ ที่ทำให้พูดโกหกได้เรื่อย ๆ โดยจุดประสงค์ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือมีความต้องการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง

ผมอยากบอกว่า สังคมไทยทั่วๆไป เป็นสังคมที่ให้อภัย แต่คนคนนั้นต้องมีสำนึก แต่ถ้าไม่มีสำนึก สังคมไทยก็มักจะไม่ยอม ดังนั้น คนในครอบครัว คนใกล้ชิด ลิ่วล้อในพรรค น่าจะต้องมีการตักเตือนให้คิดหลายๆมิติ กับสิ่งที่เกิดกับตนเองและครอบครัว

ผมคิดว่า ถ้ามีการตักเตือนกันบ้าง ให้คิดในมุมเลวร้าย ที่ตนเองทำกับประเทศบ้าง แล้วมาหักลบกับสิ่งเลวร้าย ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง น่าจะทำให้มีโอกาสสำนึก แล้วชีวิตจะได้ปล่อยวาง ประเทศชาติก็เดินต่อ ชีวิตตนเองก็จะมีความสุขในบั้นปลาย

แต่ถ้าคนในครอบครัว คนใกล้ชิดไม่เตือน ให้รู้จักคิด คิดแต่ตนเองเป็นคนเก่ง คนถูก ไม่เคยทำผิด ไม่เคยโกงชาติ มีแต่คนอิจฉา กลั่นแกล้งตน ถ้าคิดมุมเดียวแบบนี้….ช่วยไม่ได้จริงๆ