เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดระนองและชุมพร และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)ครั้งที่ 6/2561 จ.ชุมพร โดยเยี่ยมชมการบริหารจัดการท่าเรือระนอง พร้อมรับฟังบรรยายสรุปทิศทางการพัฒนาท่าเรือระนองเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ชายแดนฝั่งอันดามันเพื่อรองรับแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia – Malaysia – Thailand Growth Triangle : IMT – GT) และกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอ่าวเบงกอล เนื่องจากมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโยง เส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางรถไฟ ทางอากาศ และท่าเรือ
จากนั้นนายกฯเป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัวให้ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลรวมในพื่นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองลำเลียง-ละอุ่น เนื้อที่ 511–3–33 ไร่ จำนวน 84 ราย 98 แปลง พร้อมชมการแสดงระบำลูกพรานน้อยบ้านระวิโดยนักเรียนโรงเรียนระวิราษฎร์บำรุง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า ทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลายเรื่องคืบหน้า อย่างปัญหาที่ดินที่คสช.เข้ามาแก้ไข และทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข พร้อมวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต่างจากที่ผ่านมาพัฒนาเป็นจุดๆ เหมือนตัวต่อเลโก้ ทำตรงนี้นิดตรงนี้หน่อยเหมือนอีสุกอีใส ไม่เชื่อมโยงกัน ส่วนที่กังวลมากที่สุดคือปัญหาด้านการเกษตร แต่ไม่ได้พูดให้ทุกคนตกใจ แค่ต้องการให้ปรับตัว อยากไปฟังว่าเขาจะให้นี่ให้นั่น ที่ให้มากเกินความจำเป็น มีปริมาณมากกว่าความต้องการของตลาด สุดท้ายโยนภาระให้รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ
“รัฐบาลนี้ไม่อยากบอกว่าให้ความหวังกับทุกท่าน แต่เราพร้อมจะให้ข้อเท็จจริงกับทุกคน และไม่ได้มาเพื่อการเมือง ทำเช่นนี้มาโดยตลอด 4 ปี และฝากประชาชนช่วยกันดูรัฐบาลใหม่ซึ่งไม่รู้ว่าใคร เพราะประชาชนเป็นคนเลือกตั้ง จะทำหรือไม่ทำแบบนี้ด้วย ระมัดระวังการใช้งบฯ ดังนั้นใครเอาเงินมาให้ต้องถามเอางบฯมาจากไหน ทำแบบเดิมไม่ได้ เพราะกฎหมายเขียนไว้แล้ว”
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องคิดใหม่ ไม่อย่างนั้นก็แบบเดิม หรือไม่ใช่ใครให้เงินก็เป็นรัฐบาลได้ นั้นแหละท่านกำลังทำร้ายประเทศตัวเองในวันหน้า อย่าไปเชื่อว่ารัฐบาลไปเอื้อประโยชน์ เราเปิดประมูลภาคธุรกิจเสนอขึ้นมา ใครได้ก็ว่ามา ไม่ใช่อยู่ดีๆไปยกให้ ทำได้ที่ไหน แต่ที่ผ่านมามี แต่รัฐบาลนี้ไม่มี หากมีแจ้งมาจะลงโทษให้ สุดท้ายขอย้ำวันนี้ไม่ได้มาการเมือง ถ้าการเมืองมาตั้งแต่ปีแรกแล้ว ปีแรกแทบไม่ต้องทำอะไรรบกันแต่เรื่องเดิม รบกับความไม่สงบเรียบร้อย วันนี้ลืมหรือยังความสงบเรียบร้อยที่เกิดขึ้นมา ดังนั้นการประท้วงอย่าให้มีอีก ทำการเมืองใหม่แบบสร้างสรรค์ ไม่ใช่แข่งและทำลายกัน โดยมีกฎหมายสร้างความเท่าเทียม ตนใช้กฎหมายเดียวกับท่าน แต่มีกฎหมายการเมืองเพิ่มอีกอันในประเทศมีทั้งคนเลวคนดี เพียงแต่ว่าเราจะมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปแค่ไหน แต่ถ้ารวยแล้วโกงเขามาก็น่าจะอายใช้เงินบ้าง
