จากกรณีที่นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สยยท.) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) กล่าวถึงปัญหาการบริหารงานในการยางแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ได้มีการนำยางในสต็อกออกจำหน่ายในราคา 39.50 บาทต่อ กก. ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดโดยเฉลี่ย 5-6 บาทต่อ กก. เป็นการซ้ำเติมเกษตรกร การจัดซื้อปุ๋ยเคมีแจกเกษตรกรสวนยาง ซึ่งใช้วิธีการประมูลนั้นมีขั้นตอนล่าช้า และการใช้งบการบริหารในการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ค่อนข้างสูง จึงเสนอให้สถาบันวิจัยยางไปสังกัดกรมวิชาการเกษตรตามเดิมเพื่อลดค่าใช้จ่าย
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย และรักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กทย.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การขายยางต่ำกว่าราคาตลาดนั้นนโยบายของ กยท. มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพราคาให้มีเสถียรภาพและอยู่ในระดับที่สูงและเกษตรกรชาวสวนยางขายยางคุ้มการลงทุน อย่างไรก็ตามทาง กยท จะติดต่อขอรายละเอียดจากนายอุทัยเพิ่มเติมเพื่อจะได้อธิบายให้ชัดเจน
“ส่วนการจัดซื้อปุ๋ยของ กยท. ทุกครั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ กยท. เห็นชอบและอนุมัติและมีการเปิดการประมูลผ่านระบบ E bidding ตามระเบียบของกรมบัญชีกลางอย่างเคร่งครัด” นายเยี่ยม กล่าวและว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้ย้ายสถาบันวิจัยยางไปสังกัดกรมวิชาการเกษตรตามเดิมนั้น ไม่สามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายที่การบริหารหน่วยงานหรือองค์กรต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558