เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต กล่าวว่า ยังต้องเฝ้าระวังแม่น้ำเพชรบุรีที่ยังคงมีระดับสูงแต่แนวโน้มลดลง และลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงบริเวณที่แม่น้ำโขงสูงกว่าตลิ่ง ส่วนแม่น้ำโขงระดับน้ำสูงขึ้นกว่าตลิ่งที่ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดยต้องเฝ้าระวังบริเวณจังหวัดหนองคายและจังหวัดบึงกาฬ พร้อมทั้งยังเร่งระบายและพร่องน้ำต่อเนื่องออกจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำระดับน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุอ่างอย่างเขื่อนแก่งกระจาน ปริมาณน้ำ 756 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 106 ของความจุอ่าง น้ำล้นทางระบายน้ำ หรือสปิลเวย์สูง 102 เซนติเมตร ระบายออก 16.28 ล้านลูกบาศก์เมตร
หลังเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.61) เกิดฝนตกในลุ่มน้ำเพชรบุรีบริเวณเหนือเขื่อนแก่งกระจาน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างต่อเนื่อง โดยยังคงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนแก่งกระจานต่อเนื่องเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าอ่างช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนนี้ เนื่องจากจะมีฝนตกชุกและอาจมีพายุเข้าในช่วงเวลาดังกล่าว โดยได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนแก่งกระจานเป็นวันละ 180 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปรับแผนบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเพชรบุรี ด้วยการเปิดเข้าคลองส่งน้ำ 4 สาย รวม 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรบุรีลงแม่น้ำเพชรบุรี 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่ระบายลงแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรี อาจเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ต่ำกว่าตลิ่งได้
