‘ไทย-เนปาล’ เจรจาชื่นมื่น! ร่วมผลักดันการค้า หนุนท่องเที่ยวพุทธศาสนาในเอเชีย

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่กรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือกับนายคัดห์กา ปราสาด ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีเนปาล ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 4 ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อรัฐบาลเนปาล ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม BIMSTEC Summit และขอบคุณที่ต้อนรับคณะผู้แทนไทยอย่างอบอุ่น ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเนปาล จะครบรอบ 60 ปีในปี 2562

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ไทยและเนปาลยังมีลู่ทางที่จะผลักดันมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยว ก่อสร้าง พลังงาน และสาธารณูปโภค ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ผ่านสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างเนปาล-ไทย โดยภาครัฐและประชาชนไทยจำนวนมากได้มีส่วนสนับสนุนความช่วยเหลือเนปาล ในการฟื้นฟูประเทศเนปาลหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2558 สะท้อนถึงความใกล้ชิดระหว่างประชาชนและรัฐบาลของทั้งสองประเทศ

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ไทย – เนปาล มีความเชื่อมโยงทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีมายาวนานกว่าสองพันปี ชาวไทยนิยมเดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ คือ ลุมพินีวัน ในฐานะที่เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ดังนั้น ไทยพร้อมร่วมมือกับเนปาลภายใต้แนวคิด “3Ps” (Pieces, Places, People) รวมทั้งประเทศอื่นๆที่มีความเชื่อมโยงกันทางพุทธศาสนา ในการจัดทำ “Buddhist Story Book” เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนาในเอเชียให้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวร่วมกัน ไทยยังพร้อมสนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลในเขตลุมพินีตามที่มีดำริ นอกจากนี้ ชาวเนปาลจำนวนมากนิยมเดินทางเยือนไทยเพื่อรักษาพยาบาล ปัจจุบัน ไทยมีนโยบายพัฒนาประเทศเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อการรักษาพยาบาล (Medical Hub) ด้วย

พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือทั้งเนปาลและไทยยังสามารถขยายความร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในมติประชาชนกับประชาชน ยังมีความเชื่อมโยงผ่านรากเหง้าแห่งศาสนา วัฒนธรรม คติ ความเชื่อ และเมื่อเนปาลประสบเหตุการณ์แผ่นดินอย่างรุนแรง ประเทศไทยยังได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล มาให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น และยังมีการส่งมอบสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาลและคนไทยได้มอบยาและเวชภัณฑ์แก่นายกรัฐมนตรีเนปาล โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการจะส่งมอบยาและเวชภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเนปาลต่อไป