นายกฯถก ‘กบภ.’ มุ่งปฏิรูปประเทศ เคาะงบจังหวัด-กลุ่มจังหวัดปี63วงเงิน2.8หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) ครั้งที่ 2/2561 ว่า ในการประชุมนโยบายภาค เราจะต้องทำอย่างไรให้แต่ละภาคมีความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคกับภาค และกลุ่มจังหวัด ขอเน้นย้ำว่า การทำงานในห้วงเวลาต่อไปนี้ โดยเฉพาะแผนในการจัดทำงบประมาณเพื่อให้เกิดความง่ายในการบริหาร และจะไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลัง โดยต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติที่เราวางไว้ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ ให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นผลสัมฤทธิ์ไปสู่แนวทางที่เราต้องการ และปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ให้ได้ ให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมมาช่วยเหลือประชาชนในอนาคต ผ่านการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อภายใต้กฎหมาย ทั้งนี้ รัฐบาลต้องมีข้อมูลหรือบิ๊กดาต้าของความเหลื่อมล้ำและโอกาสของประชาชน เพื่อมาประกอบการพิจารณา แผนงาน โครงการ เพิ่มมูลค่า เชื่อมโยงห่วงโซ่ในการประกอบอาชีพ การหารายได้ การใช้การตลาด นำภาคการผลิต ซึ่งต้องพิจารณาประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรหรือผู้มีอาชีพอิสระ

ในที่ประชุมฯเห็นชอบกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินรวม 2.8 หมื่นล้านบาทเท่ากับปีงบประมาณ 2562 โดยใช้สัดส่วนการจัดสรรงบประมาณ 70:30 คือจัดสรรเป็นงบประมาณในการดำเนินการโครงการของจังหวัดต่างๆรวม 1.96 หมื่นล้านบาท และจัดสรรให้กับกลุ่มจังหวัดต่างๆ 8,400 ล้านบาท และงบประมาณในการบริหารงานกลุ่มจังหวัด 695 ล้านบาท กลุ่มจังหวัด 89 ล้านบาท

สำหรับการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในปี 2563 รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับตัวชี้วัด 7 ข้อซึ่งรวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศ นโยบายสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคเช่น ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) การแก้ปัญหาความยากจน โดยจัดสรรงบประมาณให้กับจังหวัดที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรตามข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) จังหวัดที่มีรายได้ต่ำจะได้รับการจัดสรรมาก เป็นต้น

ทั้งนี้ มอบหมายให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดทำคำขอจัดสรรงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2561 และ ก.บ.ภ.จะพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือน ก.พ.2562 ก่อนจะนำเสนอให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนเดียวกันเพื่อจัดสรรในงบประมาณประจำปี 2563 ต่อไป