เร่งพร่องน้ำ2เขื่อน ‘ขุนด่าน-ห้วยโสมง’ รับฝนชุกระลอกใหม่กลางเดือนก.ย.

เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำและพื้นที่เสี่ยงวันนี้ ว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่และมีลมแรง โดยช่วงวันที่ 11 – 15 กันยายน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมใน 20 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชรชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี

โดย 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งต้องเฝ้าระวังแม่น้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขง , แม่น้ำนครนายก จ.นครนายก และแม่น้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ส่วนแม่น้ำโขงไม่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังบริเวณ จ.หนองคาย และนครพนม

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมบริเวณลำน้ำก่ำ ลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณ อ.ศรีมหาโพธิ์ อ.เมืองปราจีนบุรี อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก จ.นครนายก โดยเฉพาะลุ่มน้ำปราจีนบุรีและนครนายกต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 85 ทั้งเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 86 ระบายออกวันละ 4.89 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 53 เซนติเมตร และเขื่อนนฤบดินทรจินดา (ห้วยโสมง) จ.ปราจีนบุรี มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 89 ระบายน้ำออกวันละ 3.61 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยทั้ง 2 เขื่อนกำลังเร่งพร่องน้ำตามการคาดการณ์ฝนที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า ภาคตะวันตก ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำและปรับแผนระบายน้ำออกจากเขื่อนวชิราลงกรณจนถึงวันนี้ และเขื่อนศรีนครินทร์ ยังระบายน้ำเพิ่มผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาจนถึงวันที่ 13 กันยายน โดยจะเร่งระบายน้ำช่วงที่จะเกิดฝนทิ้งช่วงในภาคกลางก่อนกลับมาตกหนักอีกครั้งหลังวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อให้ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุมและรองรับปริมาณนํ้าฝนได้