เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และเป็นประธานเปิดงาน Farm@Home การพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย ณ มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนองนโยบายรัฐบาลในการใช้การตลาดนำการผลิต โดยส่งเสริมให้เกษตรกรวางแผนการผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาด ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้ขยายช่องทางการจำหน่ายได้มากขึ้น ทำให้สินค้าสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น พร้อมช่วยลดต้นทุนการผลิต ช่วยลดปัญหาสินค้าล้นตลาด สินค้าราคาตกต่ำจากภาวะกระจุกตัวของฤดูกาลผลิต รวมถึงการพัฒนาสินค้าเกษตรปลอดภัย เป็นนโยบายที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ตั้งแต่กระบวนการผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานทาง GMP GAP หรือ เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น นอกจากนี้การดำเนินการประชารัฐเป็นเรื่องที่รัฐบาลมุ่งหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับโมเดิร์นเทรดในครั้งนี้ จึงนับเป็นมิติและโอกาสสำคัญ ที่ทำให้เกษตรกรได้รับโอกาสและมีพื้นที่ขายสินค้าคุณภาพ เปิดโอกาสให้เกษตรกรพบปะผู้บริโภคโดยตรง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะมีบทบาทในการคัดเลือกเกษตรกร จากสมาชิกตลาดเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร Smart Farmer และกลุ่มส่งเสริมการเกษตรต่าง ๆ ในการนำสินค้าด้านการเกษตรที่มีคุณภาพมีความปลอดภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป สินค้าหัตถกรรม และสินค้าที่เกิดจากการผลิตของเกษตรกร มาจำหน่ายในพื้นที่ที่ควบคุมกำกับโดยบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และร่วมในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมในการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยร่วมกัน
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตรที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์แปรรูป สินค้าหัตถกรรม และสินค้าที่เกิดจากการผลิตของเกษตรกรในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน สินค้าจากเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer และผลผลิตการเกษตรในพื้นที่นั้น ๆ ที่ได้รับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาวางจำหน่าย ซึ่งอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีความพร้อม จึงถูกยกให้เป็นพื้นที่นำร่องในการจัดงาน เป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆได้นำไปพัฒนาในพื้นที่ตนเองได้ต่อไป
โดยในปี 2561 จะมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ระยอง ขอนแก่น ตรัง เชียงราย นครราชสีมา ภูเก็ต พิษณุโลก และจะทยอยเปิดให้ครบทุกจังหวัดต่อไป ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางในการกระจายสินค้า มีตลาดรองรับสินค้า เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถลดต้นทุนในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากแหล่งผลิตถึงผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นตลาดภายในประเทศ หรือตลาดต่างประเทศ ตลอดจนเกษตรกรมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อีกด้วย
