กรมชลฯเร่งระบาย ‘เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์’ รับมือพายุ ‘มังคุด’ ฝนชุก

เมื่อวันที่ 16 กันยายน นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุบารีจัตและพายุมังคุด ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีปริมาณไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมา วันละประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างฯเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 507 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุม

นายทองเปลว กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักชลประทานที่ 10 บริหารจัดการน้ำ โดยเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นขั้นบันไดจากเวลา 12.00 น. ของวานนี้ (15 กันยายน) ระบาย 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แล้วปรับเพิ่มขึ้นเป็น 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนเวลา 06.00 น. ของวันนี้ (16 กันยายน) ระบายอยู่ที่ 451 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดระดับน้ำหน้าเขื่อนป่าสักฯ ให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่จะตกลงมาต่อเนื่องตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ยังจะมีฝนชุกต่อเนื่องระหว่างวันที่ 16-18 กันยายนนี้จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นมังคุด ซึ่งจะเคลื่อนที่สู่จีนตอนใต้ค่ำวันนี้

อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะไหลมายังเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้บริหารจัดการโดยรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ แล้วระบายผ่านเขื่อนพระรามหก 490 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนพระราม 6 โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่าเรือ อีกทั้งได้วางแผนจะใช้เขื่อนพระราม 6 เป็นเครื่องมือหน่วงน้ำ ซึ่งจะควบคุมอัตราการระบายไม่ให้เกินกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นอกจากนี้ สำนักชลประทานที่ 10 ยังรายงานว่า พื้นที่แก้มลิงรวม 290,130 ไร่ในความรับผิดชอบของสำนักฯ ขณะนี้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว พร้อมใช้เป็นพื้นที่รับน้ำหลาก ทำให้ไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งในลุ่มน้ำป่าสักและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา