‘สตูล’ ประสบอุทกภัย ปภ.ระดมเครื่องจักรเร่งระบายน้ำแจกถุงยังชีพ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 17 กันยายน 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 22 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หนองคาย นครพนม บึงกาฬ เพชรบุรี สกลนคร นครนายก ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิจิตร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา และสตูล มีประชาชนได้รับผลกระทบ 68,824 ครัวเรือน 218,193 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ เชียงราย พิจิตร ชัยภูมิ สระบุรี ลพบุรี หนองคาย อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ และนครพนม ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัด รวม 22 อำเภอ 66 ตำบล 317 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,565 ครัวเรือน 44,324 คน ดังนี้

ลุ่มน้ำอูนและลุ่มน้ำสงคราม 1 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคำตากล้า อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอพรรณานิคม อำเภออากาศอำนวย และอำเภอบ้านม่วง ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง

ลุ่มน้ำบางปะกง 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอบ้านสร้าง ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ฉะเชิงเทรา ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลาดกระทิงล้นทางระบายน้ำเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอแปลงยาว อำเภอบางคล้า และอำเภอสนามชัยเขต ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง

ลุ่มน้ำเพชรบุรี 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านแหลม ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลงอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่

ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ สตูล น้ำไหลหลาก ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนกาหลง อำเภอละงู อำเภอเมืองสตูล และอำเภอควนโดน ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ทั้งนี้ ได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป