สยบข่าวมั่ว ‘บัตรคนจนเอื้อนายทุน’ นายกฯยันเปิดรับผู้ผลิตสินค้าทุกรายร่วมร้านธงฟ้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความกันในไลน์ว่า การให้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อย 300 บาท/คน/เดือน เพื่อใช้ซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นการรูดเงินออกจากบัญชีของรัฐไปสู่กระเป๋าของนายทุนขนาดใหญ่ โดยที่ประชาชนไม่ได้เห็นแม้แต่ตัวเงินจริง ว่า ผู้ถือบัตรสามารถเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพได้ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ของผู้ผลิตทุกราย ครอบคลุมทั้งสินค้าอาหารสด ของใช้ในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์การเรียน และวัตถุดิบทางการเกษตร และที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิดรับสมัครผู้ผลิตสินค้าอย่างเปิดกว้างและเท่าเทียมกัน ทั้งผู้ประกอบการ SMEs ผู้ผลิตในชุมชน สหกรณ์วิสาหกิจชุมชน และบริษัทใหญ่ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มใดเป็นพิเศษ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อความที่มีการแชร์ต่อกันนั้นไม่เป็นความจริง และยังเป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐก็เป็นของที่มีขายอยู่ในร้านค้าทั่วไป โดยที่ประชาชนไม่ต้องมีบัตรสวัสดิการฯ ก็สามารถซื้อหาได้

ในทางตรงกันข้าม การซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการฯ จะทำให้ซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่า ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ถือบัตร และรัฐบาลยังได้ให้วงเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จำนวน 300 หรือ 200 บาท/คน/เดือน ช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ถือบัตร ไม่ใช่การให้บัตรไปเปล่าๆ รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าโชห่วยเล็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสามารถกลับมาขายสินค้าได้ และผู้ค้ารายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนด้วย

ส่วนประเด็นที่ระบุว่า ประชาชนไม่ได้เห็นตัวเงินนั้น ก็เพราะรัฐบาลต้องการลดการใช้เงินสด ส่งเสริมการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินของประเทศ ด้วยการโอนเงินให้ถึงมือของผู้ถือบัตรโดยตรง โดยไม่ผ่านคนกลางหรือหน่วยงานกลางใด ๆ เป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงกรณีที่นายจิรกิตติ์ พลอยประยูร แอบอ้างว่า เป็นนายตำรวจระดับสูง และเป็นเพื่อนของนายกรัฐมนตรี เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ และใช้อำนาจเบียดเบียนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งย้ำว่า ผู้ใดที่แอบอ้างนายกฯ เพื่อประโยชน์ของตนเอง จะถูกดำเนินคดีทุกราย โดยไม่ละเว้นอย่างเด็ดขาด