ก.เกษตรฯเร่งแก้ปัญหานมโรงเรียน ตั้งคกก.ศึกษาปิดช่องทุจริตขีดเส้น 30 วันจบ

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาปัญหาระบบนมโรงเรียนทั้งหมด โดยมีนายนิวัติ สุธีมีชัยกุล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นประธานให้จบใน 30 วัน เพื่อดูว่าสมควรจะมีการทบทวนระบบการจัดหาอาหารเสริม (นมโรงเรียน) หรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการร้องเรียนว่ามีการแจ้งปริมาณการผลิตน้ำนมดิบเกินกว่าความเป็นจริงที่ผลิตได้แต่ละวัน และส่งผลให้ตัวเลขการลงนามซื้อขายนมของนมพาณิชย์และนมโรงเรียนผิดไปจากข้อเท็จจริงจนเป็นช่องให้หาประโยชน์กับโครงการนี้ได้

นายกฤษฎา กล่าวว่าให้ไปดูว่าระบบการจัดหานมโรงเรียนที่ทำอยู่ขณะนี้ควรปรับปรุงอย่างไร หรือควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดู ซึ่งเกษตรกรมาขอพบเพื่อให้แก้ปัญหาบางประการ โดยเกษตรกรระบุว่าระบบการจัดสรรสิทธิ์ปัจจุบันดีอยู่แล้ว แต่การแจ้งโควตาการผลิตนมโรงเรียนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แจ้งยอดมากกว่าที่สามารถหาน้ำนมดิบมาผลิตได้ นอกจากนี้ยังมีการทุจริตการเก็บตรวจนับปริมาณนมที่ศูนย์รวบรวมนม โดยวันที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกตรวจจะนำนมจากที่อื่นมาเสริมในส่วนที่แจ้งเกินไป ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแม่โครีดนมได้ 600,000 ตัว ผลิตนมได้วันละ 3,100 ตันต่อวัน แต่จำนวนโควตาการผลิตนมที่ทำ MOU ไว้กับสหกรณ์และศูนย์รวบรวมนมต่างๆแล้วแจ้งไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์มีถึง 3,400 ตัน ดังนั้น จึงสั่งการให้ตรวจสอบว่าระบบมีช่องโหว่นี้ได้อย่างไร

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จะต้องหารูปแบบที่ดีที่สุดเพื่อเด็กและแก้ไขปัญหานมดิบของเกษตรกร เพราะกระทรวงเกษตรฯต้องดูแลทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรใช้ระบบประมูลแบบ e-Auction โดยให้แต่ละจังหวัดรับผิดชอบต้นทางถึงปลายทางและให้มีการประกันภัยระบบนมทั้งหมด หากนมเสียบริษัทประกันภัยจะเข้ามาดูแลเรื่องการชดเชยแก่ผู้ได้รับผลกระทบ