ทูตสหรัฐพบนายกฯกระชับสัมพันธ์2ประเทศ เชื่อมั่นการเลือกตั้งไทย

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกลิน ที. เดวีส เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฎิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯขอบคุณเอกอัครราชทูตที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่ง ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี โดยได้ปฏิบัติหน้าที่ในการสร้างพลวัตรในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา และพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนอย่างสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดมากขึ้น
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศนั้น มีความก้าวหน้าส่งผลให้มูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นและเป็นอันดับ 3 ของการลงทุนต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีโอกาสทางเศรษฐกิจอีกมาก โดยเฉพาะการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลตั้งใจให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่ครบวงจรและมีศักยภาพที่สุดในภูมิภาค โดยเมื่อประกอบกับนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ นโยบาย Thailand 4.0 และนโยบาย Thailand+1 ที่จะช่วยต่อยอดการลงทุนไปในประเทศเพื่อนบ้านของไทยจะทำให้การลงทุนของเอกชนสหรัฐฯเป็นประโยชน์อย่างมาก
พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังขอบคุณความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและสหรัฐฯ ปัจจุบันในการเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการดำเนินงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยต่อฝ่ายสหรัฐฯ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งว่าการที่ไทยถูกเลื่อนลำดับการจัดอันดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (TIP Report) เป็น Tier 2 เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา โดยกำหนดให้การค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติของไทย ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งปัญหาด้านการประมงอย่างผิดกฎหมายต่อไป ซึ่งในปี 2562 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ทั้งนี้ ยินดีที่จะรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสหรัฐฯในด้านต่างๆ
พล.ท.วีรชน กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวประทับใจและชื่นชมความสัมพันธ์ที่สวยงามระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี โดยไทยคือ มิตรทางการทูตของสหรัฐฯ เป็นชาติแรกในทวีปเอเชีย พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตยังแสดงความเชื่อมั่นในการจัดการเลือกตั้งของไทย เชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ในโลกได้ พร้อมอวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่สิ่งดี ๆ และขอบคุณความทรงจำที่สวยงามทั้งหมดในการดำรงตำแหน่งในประเทศไทย คนไทยมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรักที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่อชาติ และสูงสุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นพลังในการนำประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีต่อไป