‘เหนือ-อีสาน’ ฝนชุกต่อเนื่อง น้ำในเขื่อนเพิ่มระดับพอจัดสรรช่วงหน้าแล้ง

เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวว่า วันนี้ต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ (1 ต.ค.61) ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว

ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก โดยมีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 29 จังหวัด ในภาคเหนือ คือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ภาคกลาง คือ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และภาคตะวันออก คือ สมุทรปราการ นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด

สำหรับ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคตะวันตกและภาคใต้ มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง

สำหรับช่วงวันที่ 2-5 ตุลาคม ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ภาพรวมส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในเขื่อนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนภูมิพล คาดว่า ณ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาจะมีปริมาณน้ำเพื่อการบริหารจัดการและจัดสรรน้ำตามแผนการใช้น้ำได้เพียงพอในช่วงหน้าแล้งได้ 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตรตามเป้าหมาย

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะสามารถเพิ่มน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ที่ยังมีปริมาณน้ำน้อยจะมีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีน้ำเพียงพอที่จะจัดสรรน้ำให้เพื่อการอุปโภค-บริโภคในช่วงหน้าแล้งนี้