นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยเมื่อวันที่10 พ.ย2562 ว่าสมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ริมคลองสองเขตสายไหมกรุงเทพมหานครว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่สำนักการโยธาได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯที่กำลังจะสร้างหมู่บ้านจัดสรรขายได้ก่อสร้างสะพานค.ส.ล.ข้ามคลองสองบริเวณซ.พหลโยธิน54/1 ซึ่งเป็นคลองสาธารณะประโยชน์ที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันในการสัญจรทางน้ำ
อีกทั้งรัฐบาลโดยกรุงเทพมหานครมีนโยบายไล่รื้อบ้านเรือนประชาชนริมคลองให้ออกไปจากแนวคลองเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่าชาวบ้านปลูกบ้านรุกล้ำแนวคลองเป็นปัญหาและอุปสรรคในการระบายน้ำและหรือการบริหารจัดการน้ำ แต่ทว่าในทางกลับกันสำนักการโยธากลับอนุญาตให้เอกชนทำการก่อสร้างสะพานข้ามคลองสองดังกล่าว ซึ่งการใช้อำนาจดังกล่าวเป็นการย้อนแย้งต่อนโยบายของรัฐบาลและกทม. เสียเอง
ซึ่งขณะนี้ได้มีการตอกตอม่อหรือเสาสะพานขัดขวางการไหลของน้ำและเป็นอุปสรรคต่อการไหลและสัญจรทางน้ำของประชาชนเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ชาวบ้านจะไม่สามารถลอยกระทงให้ล่องลอยไปตามสายน้ำได้เพราะมีสะพานดังกล่าวขวางกั้นอยู่อีกทั้งแนวสะพานต่ำเตี้ยติดน้ำเกินไปไม่สามารถสัญจรลอดผ่านไปได้เป็นการสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนที่มีความต้องการใช้การสัญจรทางน้ำโดยชัดแจ้ง
การดำเนินการดังกล่าวไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนดไม่มีการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือEIA ซึ่งขัดต่อกฎหมายหลายฉบับอาทิม.117 ของพรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย2456 แก้ไข(ฉบับที่17) 2560 ประมวลกฎหมายที่ดินม.9 โดยการเข้าไปยึดถือครองที่ดินของรัฐซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกันเช่นที่ริมตลิ่งทางน้ำคลองฯลฯ ซึ่งมีโทษตามกฎหมายที่ดินและกฎหมายอาญามีอัตราโทษจำคุก3 ปีถึง5 ปีซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของกทม. ที่จะต้องระงับการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนต่อประชาชน
แต่กทม.กลับเพิกเฉยเชื่อว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ในโครงการจัดสรรที่ดินของเอกชนทั้งๆที่พื้นที่ดังกล่าวสามารถเข้า–ออกได้ทางซอยประชานุกูลเพื่อไปออกสะพานข้ามคลองสาธารณะที่อยู่ใกล้กันประมาณ100 เมตรกว่าได้อยู่แล้ว
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯจะนำความพร้อมหลักฐาน ไปร้องเรียนต่อป.ป.ช. เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องในวันจันทร์ที่11 พ.ย.62 นี้เวลา10.30 น. ณสำนักงานป.ป.ช. จ.นนทบุรี