เกมแก้รธน.เดือด ‘สิระ-เทพไท’ แลกหมัดกันนัว!

นายสิระ เจนจาคะ ..กทม. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวตอบโต้นายเทพไท เสนพงศ์ ..นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ว่า   เรื่องที่ตนพูดวานนี้คือประเด็นการเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญชุดนี้ ว่าเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการฯเขาจะไปเลือกกันเองไม่เกี่ยวข้องกับนายเทพไทพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีตนไม่มั่นใจว่านายเทพไทที่เป็น..มาหลายสมัยถึงไม่เข้าใจประเด็นง่ายเช่นนี้หรือต้องการจงใจเบี่ยงประเด็น

ผมเป็น..สมัยแรกหากจะนำตัวเลขทางการเมืองมาเปรียบเทียบกับผมคงสู้นายเทพไทไม่ได้อยู่แล้วแต่สำหรับผมการทำหน้าที่..คือการเข้ามาสร้างประโยชน์ให้ประชาชน4-5 เดือนที่ผ่านมาผมเชื่อว่าผมสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนมากกว่านายเทพไทเพราะฉะนั้นการโอ้อวดถึงจำนวนสมัยของการเป็น..ที่ตนเองเคยเป็นมาคือพฤติกรรมของพวกบ้าตำแหน่งนิยมหัวโขน  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณเข้ามาเป็น..เป็น10 ปีคุณทำอะไรให้เป็นประโยชน์บ้างเท่าที่ผมพยายามค้นหาผมยังไม่เจอนายสิระกล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่าอยากฝากไปถึงนายเทพไทว่าผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่..ไม่ว่าจะเป็นใครเป็นมากี่สมัยวันนี้ส..ทุกคนคือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนการที่นายเทพไทพูดจาดูแคลน..สมัยแรกที่ไม่ได้มีตนเพียงคนเดียวในสภานั้นนายเทพไทต้องย้อนกลับไปมองดูตัวเองในขณะเดียวกันก็ต้องเปิดใจให้กว้างดูการทำงานของ..สมัยแรกหลายๆท่านที่เขาสามารถทำผลงานช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่าคนเก่าแก่แต่ไม่ได้ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแบบนายเทพไท

นายสิระ กล่าวด้วยว่า..หลายสมัยมีพฤติกรรมพูดจาดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่นจนต้องคลานเข้าไปกราบขอโทษผู้หญิงเพื่อให้ตัวเองพ้นคุกพฤติกรรมแบบนี้จะมากล่าวอ้างดีกว่า..ท่านอื่นได้อย่างไร

ก่อนนี้นายเทพไท เสนพงศ์ ..นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีนายสิระ ว่าพาดพิงถึงตนและพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้รับความเสียหายการที่ตนต้องการให้พล..ประยุทธ์จันทร์โอชานายกฯและรมว.กลาโหมส่งสัญญาณถึงพรรคพลังประชารัฐเพื่อไม่ให้ขัดขวางนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะอดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็เพราะพล..ประยุทธ์ได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ให้เป็นเรื่องของรัฐสภา

นายเทพไท กล่าวต่อไปว่าดังนั้นการที่นายสิระออกมาปฏิเสธว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวข้องกับพล..ประยุทธ์ก็ไม่เป็นความจริงเพราะพล..ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่ชื่อพรรคพลังประชารัฐก็มาจากโครงการประชารัฐของรัฐบาลพล..ประยุทธ์และที่พรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้งสส.เข้ามาจำนวนมากก็เพราะการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนซึ่งเปรียบเสมือนการซื้อเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล

และที่พล..ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ในตอนนี้ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐเพราะฉะนั้นพล..ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐการที่ตนสัมภาษณ์ถึงพล..ประยุทธ์ ก็เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกันเด็กๆอย่างนายสิระ ก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวเหมือนกับการที่แม่ทัพนายกองเขาเจรจากันทหารเลวหน้าค่ายไม่ควรมาสอดรู้สอดเห็นหรือจัดการงานนอกสั่ง

นายสิระไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองกับผมเพราะผมเป็นสส.มาหลายสมัยซึ่งต่างกับนายสิระ ที่เป็นสส.สมัยแรกและไม่แน่ใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้เข้ามาในสภาฯอีกหรือไม่ คุณก็เป็นได้แค่สส.แดดเดียวที่อาศัยใบบุญของพล..ประยุทธ์ เข้ามาในสภาฯอยากจะบอกให้นายสิระว่าเอาเวลาไปเตรียมตัวแก้ข้อกล่าวหาที่นายศรีสุวรรณจรรยายื่นต่อ...กรณีที่ไปมีพฤติกรรมกร่างใส่ตำรวจที่ภูเก็ตและเตรียมตัวขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะดีกว่า 

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ได้คืบจะเอาศอกตามที่ถูกกล่าวหาการเป็นประธานสภาฯของนายชวนหลีกภัยก็เพราะความเห็นพ้องของทุกฝ่ายและเป็นการทำหน้าที่ได้ดีที่สุดหากดูองค์ประกอบของสส.ในสภาชุดนี้ที่มีความหลากหลายเช่นนี้ถ้าประธานสภาฯไม่ใช่คนที่ชื่อชวนหลีกภัยไม่รู้ว่าสภาฯชุดนี้จะวุ่นวายขนาดไหนการที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อนายวีระกรคำประกอบ นายวิรัชรัตนเศรษฐ์นายวิเชียรเชาวลิต จนถึงนายสุชาติตันเจริญให้เป็นประธานกรรมาธิการฯชุดดังกล่าวก็ยังไม่มีเสียงการตอบรับจากสังคมเลยจนวันนี้มีการนำชื่อของนายบวรศักดิ์อุวรรโณอดีตกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญมาเพื่อโยนหินถามทางนั้นก็ต้องรอดูว่ามีการตอบรับหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์มากน้อยแค่ไหนนายเทพไทกล่าว

..พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เสนอนายอภิสิทธิ์นั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ก็เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีศักยภาพสูงมีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนานเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ถ้าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใครขึ้นมาก็อยากให้สังคมพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างบุคคลเหล่านั้นกับนายอภิสิทธิ์ว่าใครมีความเหมาะสมในการทำหน้าที่นี้มากกว่ากันถ้าพรรคพลังประชารัฐจะอ้างสิทธิ์การเป็นพรรคการเมืองใหญ่ต้องการให้คนของตัวเองเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้จริงก็อยากจะถามถึงเจตนาว่ามีความจริงใจในการศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหนหรือจะขอให้เป็นเพียงแค่พิธีกรรมหรือเพื่อซื้อเวลาไม่ให้ถูกโจมตีว่าไม่ได้ทำตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเท่านั้น.