นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความความคิดเห็นเรื่อง“รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีรายละเอียดดังนี้
(1)
เวลาเราพูดถึงรัฐธรรมนูญมันไม่ง่ายหรอกครับที่จะเข้าใจจนถึงกับเราสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่ารัฐธรรมนูญมีจุดอ่อน–จุดแข็งอย่างไรควรแก้ไขจุดไหนบ้างคนไทย(ส่วนหนึ่ง) เชื่อตามที่เขาพูดเราเชื่อคนไหนเราก็ตามคนนั้นไปโดยเราไม่ได้คิดเองที่เราไม่ได้คิดเองเพราะ
1.เราไม่ได้อ่านรัฐธรรมนูญ(หรืออ่านน้อยเกินไป)
2.อ่านแล้วไม่เข้าใจเพราะมันยากดังกล่าวแล้ว
เอาอย่างนี้ครับผมจะอธิบายง่ายๆฉบับชาวบ้านเป็นตอนๆไปรับรองว่าอ่านแล้วท่านออกไปกินกาแฟตอนเช้าสามารถเถียงกับคนข้างๆได้
รัฐธรรมนูญสมัยแรกๆตั้งแต่ปี2475 ประกอบด้วยเรื่อง4 เรื่องคือ
1.เรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์
2.เรื่องเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี
3.เรื่องเกี่ยวกับส.ส.
4.เรื่องเกี่ยวกับศาล
รัฐธรรมนูญสมัยเริ่มแรกประกอบด้วยเรื่องหลักๆ4 เรื่องนี้ครับต่อมาตั้งแต่ปี2540 รัฐธรรมนูญได้เพิ่มเรื่องที่5 เข้าไปซึ่งถือเป็นการเริ่มปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เลยคือองค์กรอิสระเคยได้ยินไหมครับเวลาเขาเถียงกันเรื่องรัฐธรรมนูญเขามักจะเอ่ยถึงรัฐธรรมนูญฉบับปี2540 ประจำ
ผมจะค่อยอธิบายรัฐธรรมนูญให้ง่ายที่สุดให้อ่านกันเป็นสำนวนชาวบ้านง่ายๆเริ่มต้นด้วยรัฐธรรมนูญฉบับแรกๆก่อนที่มี4 เรื่องคือว่าด้วยพระมหากษัตริย์,รัฐมนตรี,ส.ส. และศาลอ่านแล้วสงสัยตอนไหนก็ถามมา
(2)
เหตุที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับต้องบัญญัติเรื่องที่เกี่ยวด้วยพระมหากษัตริย์ไว้เพราะประเทศไทยตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมีการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ตลอดมาซึ่งเหมือนกับประเทศทั่วไปในโลกที่เริ่มต้นประวัติศาสตร์ก็ปกครองด้วยกษัตริย์หรือนักรบ
เพียงแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 จากพระมหากษัตริย์ที่อยู่เหนือกฎหมายก็เป็นพระมหากษัตริย์ที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์รัฐธรรมนูญทุกฉบับก็จะบัญญัติไว้ในมาตราต้นๆว่าประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและรัฐธรรมนูญก็คุ้มครองสถานะของพระมหากษัตริย์ว่าทรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้จะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้
พระมหากษัตริย์ทรงสืบราชสมบัติตามกฎมณเฑียรบาลด้วยการสืบราชสันตติวงศ์จึงถือเป็น“ภาคบังคับ” ที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับต้องบัญญัติเรื่องพระมหากษัตริย์ไว้บางฉบับก็เขียนไว้ยาวบางฉบับก็เขียนไว้สั้นๆ
สถานะของพระมหากษัติย์กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปตามกฎหมาย,รัฐธรรมนูญและส่วนที่อยู่นอกเหนือกฎหมายเรียกว่า“ราชประเพณี” ผู้สนใจก็หาอ่านได้จากข้อเขียนของบุคคลที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้เช่นอ.บวรศักดิ์,อ.ธงทองและดร.วิษณุหรือข้อเขียนของมรว.คึกฤทธิ์ปราโมชเป็นต้น
#นิพิฏฐ์ผู้แทนนอกสภา
(3)
ในตอนที่2 ได้กล่าวถึงรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ตอนนี้จะกล่าวถึงรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับส.ส. เราจะได้ยินบ่อยที่หลายคนบ่นว่าอะไรๆก็พูดถึงแต่เรื่องของส.ส. ไม่เห็นพูดถึงเรื่องของประชาชนบ้างเลย
คนที่พูดอย่างนี้เป็นเพราะเขาเข้าใจผิดรธน.จะไม่เขียนเรื่องของส.ส.ไม่ได้เลยเพราะรธน.เป็นการจัดโครงสร้างของอำนาจเมื่อส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนเราจะพอใจหรือไม่พอใจส.ส.ก็แล้วแต่
แต่รธน.ต้องพูดถึงที่มาของส.ส.ว่าส.ส.มีที่มาอย่างไร,มีคุณสมบัติอย่างไร,มีจำนวนเท่าใด,มีวิธีการเลือกส.ส.อย่างไร,มีความสัมพันธ์กับอำนาจบริหารและอำนาจตุลาการอย่างไรส่วนสมาชิกวุฒิสภานั้นจะมีหรือไม่มีก็ได้
รธน.ในระยะหลังจะเขียนเรื่องส.ส.ไว้ละเอียดยิบเพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลไปออกแบบเรื่องของส.ส.เองในภายหลังจะก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันจึงเขียนไว้เแบบตายตัวในรธน.เสียเลยหลักการสำคัญคือประชาชนต้องสามารถเลือกตัวแทนของตนเองได้อย่างอิสระเที่ยงธรรมและเป็นความลับ
เราเคยเห็นเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่งกกต.เคยหันคูหาออกนอกเวลาประชาชนไปเลือกตั้งจึงต้องหันหลังออกนอกคูหาศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะเพราะอาจไม่เป็นความลับคนข้างนอกอาจมองเห็นการกากบาทได้ในระยะหลังคนทุจริตซื้อเสียงบางคนจึงให้เงินชาวบ้านผู้ใช้สิทธิและถ่ายบัตรประชาชนผู้ใช้สิทธิไว้และบอกว่าเมื่อถ่ายบัตรไว้แล้วสามารถตรวจสอบได้ว่าเลือกใครวิธีการนี้แพร่หลายในปัจจุบัน
กล่าวโดยสรุปรัฐธรรมนูญที่ไม่เขียนเรื่องของส.ส.ไว้ไม่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญประชาชนที่สนใจเรื่องของส.ส.ก็ดูว่ารธน.ออกแบบเรื่องส.ส.ไว้ถูกใจเราหรือยัง.