‘ช่อ-อนค.’ ส่ออ่วม!สื่อยักษ์ใหญ่เล็งดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 18 พ.ย 2562 จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่โดยน.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงสื่อเครือเนชั่นว่านำเสนอข่าวสารให้เกิดความเข้าใจผิดด้วยการให้ร้ายต่อพรรคอนาคตใหม่และบุคคลของพรรคเช่นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และนายปิยบุตร แสงกนกุล เลขาธิการพรรคฯลฯนั้น

นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ปจำกัด(มหาชน) ชี้แจงว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเครือเนชั่นเนื่องจากต้องการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่พรรคอนาคตใหม่และบุคลากรในพรรคได้กระทำขึ้นได้แก่

1.การโอนหุ้นบริษัทวี-ลัคมีเดียจำกัดของนายธนาธรเกิดขึ้นเพราะนายธนาธรได้แถลงว่าจะโอนหุ้นของตัวเองที่ถือไว้ในบริษัทต่างๆไปไว้ที่“บลายด์ทรัสต์” เมื่อวันที่18 มี.ค.2562 ปรากฏว่าต่อมาสำนักข่าวอิศราได้ไปค้นข้อมูลที่กรมการค้าทะเบียนพาณิชย์

จากนั้นได้มีการนำเสนอข่าวกรณีของบริษัทวี-ลัคมีเดียจำกัดประกอบธุรกิจสื่อนิตยสารตรวจสอบพบมีการโอนหุ้นดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการประกาศใช้แนวทางบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยวิธีBlind Trust 3 วันและก่อนการเลือกตั้งวันที่24 มี.ค.2562 จำนวน3 วัน ทำให้ปรากฏข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนว่านายธนาธรยังไม่ได้โอนหุ้นบริษัทวี-ลัคมีเดียซึ่งเป็นความผิดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากนั้นนายธนาธรนายปิยบุตรและพรรคอนาคตใหม่ก็ได้พยายามจะแก้ต่างความผิดที่ตัวเองได้ทำขึ้น

2.การให้กู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ก็ได้รับการเปิดเผยจากการที่นายธนาธรแจ้งต่อสมาคมนักข่าวต่างประเทศเมื่อวันที่15 พ.ค. 2562 ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าผิดตามกฎหมายมาตรา62 พ.ร.ป.พรรคการเมืองทั้งนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่พรรคอนาคตใหม่นายธนาธรทำเองทั้งสิ้น

3.ในกรณีของน.ส.พรรณิการ์ ที่บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทต่อมาสำนักข่าวอิศรามาเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ต.ค 2562 ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเงินสดในบัญชีที่ยื่นต่อสำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีเพียง 90,000 บาทแต่สามารถบริจาคให้พรรคถึง1ล้านบาท

นายสมชาย กล่าวว่าการนำเสนอข่าวของเครือเนชั่นเป็นการนำเสนอตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามกระแสข่าวเพียงแต่ด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานที่เจาะลึกหาข้อมูลมายืนยันจึงทำให้เป็นหลักฐานผูกมัดพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่รู้สึกว่าเครือเนชั่นเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่

สำหรับความสัมพันธ์ของบุคลากรในเครือเนชั่นกับสถาบันทิศทางไทยนั้นเป็นกระทำโดยส่วนตัวด้วยความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและเป็นการกระทำที่เปิดเผย เพราะสถาบันทิศทางไทยเป็นองค์กรสาธารณะไม่แสวงหากำไร โดยมีคณาจารย์มาร่วมอาทิ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล, ดร. สุวินัย ภรณวลัย,ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์, ดร.นักรบ ระวังการณ์,ดร.แสงเทียน อยู่เถา,ดร.วีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล,ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ,ฑีญา เผ่าสวสัดิ์และนายหาญศักดิ์ หาญสมวงศ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวดังกว่าของน.ส.พรรณิการ์ และพรรคอนาคตใหม่ทางเครือเนชั่นกำลังพิจารณาในการดำเนินคดีกับน.ส.พรรณิการ์และพรรคอนาคตใหม่ต่อไป