ผู้มีอำนาจอย่าชะล่าใจ ‘ดร.เสรี’ ปลุกวางยุทธศาสตร์ตีโต้สงครามไซเบอร์!

ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และคณาจารย์สถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาดได้แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองว่า “น่าเป็นห่วง” เพราะมีฝายหนึ่งทำสงครามเชิงรุกอีกฝ่ายหนึ่งแม้แต่สงครามเชิงรับก็ยังไม่ทำเลยคิดว่าไม่มีสงคราม

โดยดร.เสรีมองว่าฝ่ายหนึ่งตั้งหน้าตั้งตาวางยุทธศาสตร์ก่อสงครามด้วยวาทกรรมที่เป็นlie fare อีกฝ่ายคิดว่าตนเองครองอำนาจอยู่และคิดว่ายังไม่มีสงครามคิดว่าการใช้กฎหมายเป็นlaw fare จะเอาชนะได้ 

เมื่อคิดเช่นนี้จึงunderestimate วาทกรรมlie fare   ของอีกฝ่ายที่โกหกบิดเบือนยุยงปลุกปั่นว่าคงไม่สามารถเอาชนะกฎหมายได้แต่กฎหมายก็อาจจะมีช่องโหว่ทำให้law fare ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ 

“ถ้ากฎหมายพอจะทำอะไรพวกเขาได้บ้างก็จะโดนวาทกรรมล่าแม่มดใช้ปาฏิหาริย์กฎหมายกลั่นแกล้งและก็มีสาวกที่พร้อมจะเชื่อวาทกรรมของพวกเขาด้วยทำให้เกิดความชิงชังผู้มีอำนาจ”

หากเป็นเช่นนี้เรื่อยๆกว่าผู้มีอำนาจจะรู้ตัว คนที่วางยุทธศาสตร์ทำสงครามก็ยึดครองใจกลุ่มเป้าหมายเหมือนคนทำสงครามที่ยึดครองดินแดนได้ เหมือนเขายึดครองหัวเมืองได้เกือบหมดแล้วฝ่ายครองอำนาจจะเหลือพื้นที่ยึดครองแค่กรุงเทพเมืองเดียว เสบียงและกำลังพลจะพอสู้กับคนที่เขายึดครองหัวเมืองใหญ่น้อยได้หรือ 

“ตื่นรู้เสียทีเถอะว่ามีคนก่อสงครามแล้ว ดังนั้นต้องวางยุทธศาสตร์ในการต่อสู้แล้วอย่าชะล่าใจกับอำนาจที่มี ถ้าบอกแล้วไม่เชื่อกันระวังจะพ่ายแพ้ เพราะกำลังพลและเสบียงไม่พอนะพวกก่อสงครามเขาจะยึดครองไปเรื่อยบนสมรภูมิ  cyber ที่มีsocial mrdia เป็นอาวุธสำคัญ” ดร.เสรีระบุและการภูมิใจว่าเราเก่งเรื่องอะไรเป็นเรื่องดีแต่การยอมรับว่ามีคนเก่งกว่าเราในบางเรื่องที่เราสามารถเรียนรู้จากเขาได้นั้นก็ยิ่งจะดีกว่านะคะ

เล่าปี่แม้มีอำนาจยังต้องอาศัยขงเบ้งวางแผนสู้แล้วรัฐบาลนี้จะอยู่เป็นเล่าปี่ไม่มีขงเบ้งจนแพ้สงครามกระนั้นหรือพุทธศาสนานิกายเซนสอนคนให้ทำตัวเป็นแก้วที่พร่องน้ำให้คนเอาน้ำมาเติมได้หรือผู้บริหารของเราจะเป็นแก้วที่เต็มน้ำจนไม่มีใครเติมอะไรให้ได้อีกแล้วกระนั้นหรือ 

เป็นห่วงนะคะจากใจคนแก่ที่ไม่ยอมเก่าค่ะ.