อดีตผู้พิพากษา ชี้นักกม.ที่รู้เรื่องซื้อขายหุ้น ศึก ‘เดียร์-ช่อ’ ย่อมคาดหมายได้ว่าฝ่ายไหนถูก ฝ่ายไหนจะอนาคตดับ

นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ได้โพสต์เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2562 ลงบนเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng โดยมีรายละเอียดดังนี้

…..เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำและดำเนินคดีแก่นางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส. และโฆษกพรรคอนาคตใหม่กับพรรคอนาคตใหม่ ที่มีพฤติกรรมแถลงข่าวกล่าวหาตนเมื่อวันที่ 18 และวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

…..โดยเป็นการแถลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงของตนและคู่สมรส ในประเด็นการถือหุ้นและครอบงำสื่อซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตนเองได้ขายหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงไม่ได้ขาดคุณสมบัติและไม่ได้ทำผิด พรป.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

…..ข้อเท็จจริงดังกล่าวสามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบไปยังบริษัทต่าง ๆ และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็จะทราบว่าตนได้ขายหุ้นที่เกี่ยวกับสื่อมวลชนทั้งหมดก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่ นางสาวพรรณิการ์จะตรวจสอบให้มีความชัดเจนก่อนการแถลงข่าว จึงเชื่อว่านางสาวพรรณิการ์ มีเจตนาเพื่อกลั่นแกล้งให้ตนถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

…..การที่นางสาวพรรณิการ์ ในฐานะเป็น ส.ส.และในฐานะโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกล่าวหาตนเองด้วยข้อความอันเป็นเท็จเพื่อจะแกล้งให้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง อีกทั้งยังมีการแจ้งหรือให้ถ้อยคำต่อ กกต.ตามการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เป็นการกระทำความผิดตามพรป.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 143…..มาตรา 143 ผู้ใดกระทําการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทําการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี

…..ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือ สิทธิสมัครรับเลือกต้ังหรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

…..ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคําต่อคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจําคุก ต้ังแต่เจ็ดปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่หน่ึงแสนสี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

…..จึงขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบการกระทำของ นางสาวพรรณิการ์และพรรคอนาคตใหม่ หากพบว่าการแถลงข่าวและที่อ้างว่าได้ยื่นข้อร้องเรียนต่อ กกต.เป็นความเท็จ ก็ขอให้ กกต.ดำเนินคดีแก่ นางสาวพรรณิการ์และพรรคอนาคตใหม่ด้วย

…..หนังสือที่นางสาววทันยายื่นต่อ กกต. ดังกล่าวเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการประเมินความรู้ความสามารถระหว่างที่ปรึกษากฎหมายของนางสาววทันยากับของนางสาวพรรณิการ์ว่าฝ่ายไหนรู้กฎหมายจริงหรือไม่รู้อะไรเลย โดยมีคำแหน่ง ส.ส.และอนาคตทางการเมืองของคนทั้งสองเป็นเดิมพันกับอาจถูกลงโทษจำคุกและปรับเป็นของแถม

…..นักกฎหมายที่รู้กฎหมายจริงและมีความรู้เรื่องการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็ย่อมคาดหมายได้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายถูกและฝ่ายไหนจะอนาคตดับ