นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีรายละเอียดดังนี้
แข่งเรือแข่งพายแข่งได้
แข่งบุญแข่งวาสนาอย่าหวังแข่ง
หลายครั้งหลายคราที่กฎหมายของไทยฉบับเดียวกันแต่ใช้กับคนหลายระดับชั้นอย่างไม่เท่าเทียมกัน
เจ้าหน้าที่รัฐหรือฝ่ายบริหารคงมอง“ฝ่ายรัฐบาล” กับ“ฝ่ายค้าน” ต่างกันมันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ชีวิตการเมืองของผมเคยเป็นแต่ฝ่ายค้านจึงไม่ทราบว่าการเป็นฝ่ายรัฐบาลได้สิทธิพิเศษอย่างไรหรือไม่?
ผมเคยคิดอยู่เสมอว่าไม่ว่าใหญ่แค่ไหนหากทำผิดกฎหมายต้องถูกลงโทษ
ต่อมาเมื่อผมได้ชดใช้หนี้ความผิดตามกฎหมาย
แต่กลับมองเห็น“คนมีอำนาจ” ไม่ต้องชดใช้จึงได้สำนึกว่าผม“คิดผิด”
กฎหมายสำหรับคนธรรมดากับกฎหมายของผู้มีเกียรติคงไม่เหมือนกัน เปรียบกับเรื่องรุกป่า หากเป็นคนธรรมดาป่านนี้คงไม่มีโอกาสแม้แต่จะเถียงได้ แต่ก้มหน้ารับโทษนึกแล้วอย่าได้ไปน้อยใจในวาสนา
คิดถึงผู้ใหญ่ที่เขาบอกไว้ว่า “แข่งเรือแข่งพายแข่งได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้”
คงมีเส้นแบ่งอะไรสักอย่างที่ประชาชนคนธรรมดาอย่างผมไม่ต้องพูด
เพราะถึงพูดไปมันไม่มีความหมายอะไรในประเทศไทย