เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2562 ที่อาคารรัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่แถลงข่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติเสนอคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการยุบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีการกู้เงิน
โดยนายปิยบุตร กล่าวว่าตนขอเป็นตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่เพื่อยืนยันณที่นี้ว่าเราไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างสิ้นเชิงเราขอตั้งขอเคลือบแคลงสงสัยต่อการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งการใช้ดุลพินิจการใช้กฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ามีวัตถุประสงค์ต้องการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ซึ่งตนอยากตั้งข้อสงสัยในประเด็นดังต่อไปนี้
1.กกต. เร่งรัดคดีของพรรคอนาคตใหม่อย่างผิดสังเกตไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีการเรียกสอบสวนเพียงแต่ให้ประธานคณะกรรมการไต่สวนเชิญไปชี้แจงแค่3 ครั้งแล้วขอให้ส่งเอกสารจำนวนมากที่ขอกันถึงบัญชีรายวันซึ่งต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวเป็นอย่างมากอีกทั้งยังเรียกเอกสารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
2.กระบวนการทำคดีนี้ที่ผ่านมามีเอกสารหลุดออกมาทางกกต. ก็ยอมรับเรื่องนี้อย่างชัดเจนสื่อมวลชนและประชาชนก็เห็นเอกสารชิ้นนี้แล้วที่ลงนามโดยเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งในระหว่างนั้นก็มีข่าวปล่อยข่าวหลุดต่างๆเผยแพร่ลงในสื่อหลายฉบับและในท้ายที่สุดมติของกกต. ในวันนี้เป็นเหมือนข่าวหลุดต่างๆเพราะฉะนั้นแล้วกระบวนการแบบนี้คือกระบวนการชี้นำทางสื่อก่อนเพื่อจะทำให้สังคมเชื่อกันไปล่วงหน้าว่าพรรคอนาคตใหม่มีความผิดจริง
3.จากที่มีมติของกกต. ยื่นให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา72 ในพ.ร.ป.พรรคการเมืองฯซึ่งความผิดตามมาตรานี้พูดกันอย่างง่ายคือการที่รับเงินมาโดยมิชอบคำถามคือเงินที่ได้มาจากการกู้จากหัวหน้าพรรคไม่ชอบด้วยกฏหมายตรงไหนแต่ทางกกต. ก็ไม่ได้มีคำตอบนี้
“วันนี้เป็นวันอัปยศอีกครั้งหนึ่ง ในการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ อยากจะให้กกต. ออกมาเจอสังคมดูบ้างออกมาเจอประชาชนบ้างลองมาฟังดูว่าสังคมคิดอย่างไรสังคมมีความเห็นการทำงานของกกต. อย่างไรผมอยากเรียนว่าอยากให้สังคมช่วยกันตั้งคำถามและพิจารณาการทำงานของกกต. ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยชี้ขาดนักการเมืองพรรคการเมืองมาเป็นจำนวนมากผมอยากให้สังคมพิพากษาวินิจฉัยชี้ขาดการทำงานของกกต. สักทีหนึ่ง”
นายปิยบุตรกล่าวต่อว่าพรรคอนาคตใหม่ยืนยันที่จะเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่องตนยืนยันว่ามติของคณะกรรมการการเลือกตั้งวันนี้ไม่สามารถหยุดการเดินทางของพรรคอนาคตใหม่ได้เราจะมุ่งหน้าทำงานทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ให้รู้ไปว่าถ้าพรรคการเมืองหนึ่งที่กำเนิดขึ้นมาที่ต้องการรวบรวมผู้คนที่ทนไม่ไหวกับสภาพการเมืองไทยในความขัดแย้งตลอด13 ปีที่ผ่านมาให้รู้ไปว่าพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ส.ส. ขยันขันแข็งทำเพื่อพี่น้องประชาชนให้รู้ไปว่าพรรคการเมืองที่ตั้งใจทำแบบนี้จะไม่มีที่อยู่ที่ยืนในระบบการเมืองประเทศไทย
สุดท้ายตนขอเรียกร้องว่า
1.อยากให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันฟังเสียงประชาชนเห็นหัวประชาชนบ้างฟังเสียงความต้องการของพี่ต้องประชาชนบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับการทำงานของพวกท่าน
2.อยากเรียกร้องไปยังประชาชนคนไทยและสังคมไทยอย่ายอมให้การยุบพรรคซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติกลายเป็นเรื่องปกติอย่ายอมให้กระบวนการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติให้กลายเป็นเรื่องปกติอย่ายอมให้กระบวนการนิติสงคราม(Lawfare) เดินหน้าต่อไปได้เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองไทยได้
“หนังม้วนเก่ากำลังจะเดินกล้องเดินฟิล์มกำลังจะฉายซ้ำอีกแล้วแต่ผมยืนยันว่าหนังม้วนนี้จบไม่เหมือนเดิมแน่นอนครับ”
“ต่อให้ยุบกี่ครั้งก็แก้ปัญหาไม่ได้เพราะจิตวิญญาณแบบอนาคตใหม่จะอยู่ไปตลอดกาลดังนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะมาตามไล่ยุบด้วยวิธีแบบนี้”
