ชาวอ.นครหลวงเฮลั่น!ศาลปค.สั่งระงับท่าเรือขึ้นถ่านหิน ‘เดอะศรี’ จ่อบุกเจ้าท่า-อุตฯอยุธยา ระงับขนถ่านหินจันทร์นี้

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาเพิ่มอีก 5 คดีในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และประชาชนริมแม่น้ำป่าสัก ในพื้นที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ยื่นฟ้องอุตสาหกรรมจังหวัดฯ กับพวกรวม 9 หน่วยงาน กรณีอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการต่าง ๆ เข้ามาดำเนินกิจการโรงงาน และท่าเรือขนส่งถ่านหิน จนเป็นเหตุให้เกิดฝุ่นละออง น้ำเสีย และเสียงดังกระทบกระเทือนต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม

โดยศาลฯได้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมเจ้าท่า ที่อนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการท่าเรือขนถ่ายสินค้าบริเวณท่าเรือ พี.เอ็น. พอร์ท. และบริษัท ท่าเรืออยุธยาและไอซีดี จำกัด ที่เปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ให้สามารถใช้เทียบเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอสได้ โดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่อนุญาต พร้อมทั้งให้นายกเทศมนตรีต.นครหลวง และนายกเทศมนตรี ต.อรัญญิก ใช้อำนาจตามพรบ.การสาธารณสุข 2535 ในการแก้ไขเหตุรำคาญเกี่ยวกับฝุ่นละอองจากการประกอบกิจการท่าเรือขนถ่ายสินค้าดังกล่าว โดยให้ดำเนินการภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด

เนื่องจากศาลฯ เห็นว่า การเปลี่ยนประเภทการใช้ท่าเรือดังกล่าว จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่า อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนประเภทการใช้ท่าเรือโดยไม่ปรากฏว่า ผู้ประกอบกิจการท่าเรือได้ดำเนินการจัดทำ EIA จึงเป็นกรณีที่ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสำคัญตามที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนั้นศาลฯ ยังพิพากษาให้อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจตามพรบ.โรงงาน 2535 แก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากฝุ่นละอองและเสียงดังจากการประกอบกิจการโรงงานเก็บรักษาหรือแบ่งบรรจุปุ๋ยเคมีของบริษัท จิ้นหยู่เฮง จำกัด และการประกอบกิจการโรงงานลำเลียงสินค้าลงเรือด้วยระบบสายพาน และเก็บรักษาหรือลำเลียงพืช เมล็ดพืช หรือผลผลิตจากพืชในไซโลโกดังหรือคลังสินค้าของบริษัท เอส.พี. อินเตอร์ มารีน จำกัด พร้อมทั้งให้นายก อบต. บ่อโพง และนายก อบต. ปากจั่น ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของโรงงานทั้งสองแห่ง ใช้อำนาจตามพรบ.การสาธารณสุข 2535 ในการแก้ไขเหตุรำคาญโดยให้ดำเนินการภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด

ทั้งนี้ในพื้นที่ลำน้ำป่าสัก อ.นครหลวง มีการก่อสร้างท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน ปุ๋ย แป้งมัน และอื่นๆอีกกว่า 51 ท่าเรือซึ่งไม่ได้จัดทำ EIA ตามประกาศกระทรวงทรัพย์ฯเลย ซึ่งก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชนตลอดริมน้ำป่าสักเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.62 นี้เวลา 10.30 น. สมาคมฯและชาว อ.นครหลวง จะเดินทางไปยื่นคำร้องให้ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนไชย จ.อยุธยา เพื่อสั่งให้ผู้ประกอบการระงับการใช้ท่าเรือที่ผิดกฎหมายตามคำพิพากษาโดยทันทีต่อไปด้วย และหลังจากนั้นจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่ออุตสาหกรรมจังหวัดอยุธยาต่อไปด้วย