‘ณัฐวุฒิ’ แขวะม็อบพันธมิตรฯ-กปปส.มีกองทัพเป็นที่พึ่ง แนะ ‘ธนาธร’ ลงถนนศึกษาชะตากรรม นปช.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการหัวใจไม่หยุดเต้นเผนแพร่ผ่านเฟชบุ๊กโดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ว่ามาถึงตรงนี้ต้องบอกว่ามีหลายด่านเหลือเกินครับ ที่เตรียมการจะยุบพรรคถ้าคิดเป็นบวกก็ง่ายศาลวินิจฉัยไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่เดินหน้าต่อไปแต่ถ้าคิดโดยอิงกับความเป็นจริงคิดเป็นบวกยากครับ

วันนี้จึงเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของแกนนำและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่จะต้องประเมินสถานการณ์กันให้ชัดแล้วเตรียมตัวเตรียมการให้พร้อมที่จะเผชิญกับอะไรก็ตามซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้น

ในทัศนะผมคิดว่าประเมินสถานการณ์ให้แย่ที่สุดแล้วเตรียมรับมือจากตรงนั้น ก็ไม่มีอะไรเสียหายว่ากันตามสูตรก็ต้องมีพรรคเตรียมไว้สำหรับรองรับส.ส.ที่จะต้องเดินต่อ

1 ตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ถ้าจะเอาสูตรนี้หมายความว่าพรรคอนาคตใหม่ ต้องให้คนไปเดินกระบวนการจัดตั้งในขั้นตอนของกกต.ไว้แล้วก่อนหน้านี้เพื่อให้ทันกับกรอบระยะเวลาแล้วเดินหน้าได้ทันที

2 ไปเจรจากับพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วตามกฎหมายร่วมอุดมการณ์ร่วมแนวทางกันได้ก็โอนย้ายถ่ายเทสมาชิกปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารแล้วก็ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร

แต่ทั้ง2 อย่างนี้ยังเป็นโจทย์ข้อง่ายถ้าเทียบกับคดีอาญา ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นลูกพ่วงต่อมาหลังจากการวินิจฉัยคดียุบพรรค

ดังนั้นผมคิดว่าขณะนี้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ต้องการสมาธิในการคิดวิเคราะห์แล้วก็แยกแยะสถานการณ์ให้ครบถ้วนรอบด้าน สิ่งที่อยากจะฝากบอกก็คือต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแล้วศึกษาให้เข้าใจว่าพรรคการเมืองอย่างไทยรักไทยหรือพลังประชาชนเมื่อถูกยุบเขามีอะไรต้องคิดต้องทำบ้าง

ถ้าตัดสินใจจะลงถนนก็ต้องเข้าใจว่าอนาคตใหม่ไม่ได้มีที่พึ่งเป็นกองทัพเหมือนพันธมิตรฯหรือกปปส.แล้วก็ต้องศึกษาชะตากรรมของนปช. โดยละเอียดว่าความบอบช้ำสูญเสียทั้งหลายมันเกิดขึ้นจากอะไรต้องป้องกันแก้ไขและพยายามอย่างสุดชีวิตในการรักษาทุกชีวิตที่จะออกมาต่อสู้ด้วยกัน

ไม่ใช่เรื่องง่ายครับแต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่มาถึงวันนี้อะไรก็ไม่ง่ายทั้งนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปยุยงส่งเสริมให้พาผู้คนออกมาเดินขบวน แต่เคารพในการตัดสินใจของแกนนำพรรคอนาคตใหม่

แล้วก็แสดงความเห็นด้วยความห่วงใยเท่านั้นบทละครเรื่องเดิมเอามาฉายซ้ำถ้าจะให้ไม่จบแบบเดิมก็ต้องเรียนรู้จุดจบของครั้งที่ผ่านๆมา