คอลัมนิสต์ชื่อดัง ‘เปลว สีเงิน’ เจ้าของคอลัมน์คนปลายซอยในหนังสื่อพิมพ์ไทยโพสต์ได้เขียนบทความเรื่อง”ศิษย์หนุ่มกับอาจารย์ทารก” เผยแพร่ทางเว็บไซต์https://www.plewseengern.com/เมื่อวันที่21 ม.ค.2563โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“ช่อ-พรรณิการ์” นี่……….
ต้องยกให้เธอเป็น”เตียวเสี้ยน” แห่งสำนัก”อนาคตโคตรใหม่” อย่างนั้นเลยจริงๆ
“เหว” ว่าลึกแล้ว
แต่คิดจากก้อนสมองในหัวกะโหลกที่ทิ่มคอจมลงไปถึงไหล่ลึกและล้ำกว่ามากนัก!
ก็ดูซีคนอื่นคิดพันครั้งสู้ช่อคิดครั้งเดียวได้ซะที่ไหน
อย่างวันนี้(๒๑ม.ค.๖๓) ตอน๑๑.๓๐น.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคำร้องของนายณฐพรโตประยูรที่ร้องให้วินิจฉัยว่า….
“ข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ชอบด้วยพ.ร.ป.พรรคการเมืองพ.ศ.๒๕๖๐มาตรา๑๔มาตรา๑๕ หรือไม่”?
เพราะไม่มีข้อความส่วนใดเลยที่แสดงการยอมรับความเป็น”การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
เป็นพรรคอื่น-คนอื่นต้องแห่กันไปแน่นศาลเพราะผลของคดีมีการ”ยุบ-ไม่ยุบพรรค” เป็นเดิมพัน
แต่”ช่อ-พรรณิการ์” แห่งอนาคตใหม่กลับบอก………
“แกนนำพรรคและส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดจะมาร่วมฟังคำตัดสินที่ทำการพรรคจะไม่ไปศาลรัฐธรรมนูญ
หากสมาชิกพรรคหรือผู้สนับสนุนพรรคต้องการมาร่วมฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไปพร้อมๆ กันก็สามารถเดินทางมาแสดงพลังได้ที่สำนักงานใหญ่พรรคอาคารไทยซัมมิท”
ดูเผินๆคล้ายส่งสัญญาณ”ชั้นไม่แคร์”
แต่ถ้าพิศชำแรกเส้นผมบนหัวช่อลงไปจะต้องยกหัวนิ้วโป้งให้เธอ
ฟังหน้าจอโทรทัศน์อยู่ที่พรรคมันคล่องตัวและสมบูรณ์แบบ”ทั้งรุก-ทั้งรับ” ครบถ้วน
คือถ้าศาลฯวินิจฉัยว่า……..
ข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ที่ใช้คำว่า”หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ”
โดยไม่มีคำว่า……….
“อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อยู่ด้วย
แบบนั้นไม่ขัดมาตรา๑๔มาตรา๑๕พ.ร.ป.พรรคการเมืองพ.ศ.๒๕๖๐แล้วละก็
พรรคอนาคตใหม่จะได้เชิดสิงโตฉลองกันบนอาคารไทยซัมมิทให้ครื้นเครงประเทศไทยกันไปเลย
แต่ถ้าศาลฯวินิจฉัยว่า”ขัด”……….
จะได้เปลี่ยนจากเชิดสิงโตเป็น”พิธีกงเต๊ก” บนอาคารไทยซัมมิทให้สอดคล้องกับบรรยากาศ
ซึ่งแบบนี้ถ้าไปฟังอยู่ที่ศาลฯทั้งธนาธรทั้งปิยบุตรทั้งพรรณิการ์หรือใครๆจะทำอย่างนั้นไม่ถนัดและไม่ได้
ก็ต้องซูฮก-ยกนิ้วให้”เตียวเสี้ยน” แห่งสำนักอนาคตใหม่หรือ”อนาคตโคตรใหม่” ตามที่บอกว่าคิดเผื่อไว้
ถ้ามองให้ลึกลงไปอีกนิดก็จะเห็นอีกมุม………..
มุม”ระดมกำลัง” ที่พรรคนี้เขาทำทุกครั้งนั่นแหละไม่ว่ามีเรื่องอะไรเอะอะป่าวร้องเรียกพวกตะพึด!
นี่ก็ใช่พวก…..
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”นายชาญวิทย์เกษตรศิริ”
ปัจจุบัน”สมาชิกพรรคอนาคตใหม่” โฟสต์เฟซเมื่อวาน(๒๐ม.ค.) ว่า
20/1/2020/2563 สองวันอันตราย…และวิตกจริตของคนชรา
Will Thanathorn & FFP survive? แล้วธนาธรกับอนาคตใหม่จะรอดหรือ?
ขอเล่าซ้ำอีกว่า…
เมื่อ6 ตุลา2561/2018 ปีกว่าๆมาแล้ว
เปนวันที่ผมไปสมัครเป็นสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่
เปนวันแรกที่ผมพบธนาธร
ส่วนปิยบุตรรู้จักกันมานานแล้วที่ท่าพระจันทร์
ผมทนแรงตื้อของศิษย์คนหนึ่งที่เปนกองเชียร์อนาคตใหม่ไม่ได้
ก้อเลยไปสมัครเปนสมาชิกตลอดชีพ
ทั้งๆที่อยู่มาจนเฒ่าชะแรแก่ชราไม่เคยเปนสมาชิกพรรคการเมือง
และก้อไม่เคยโหวตให้พรรคการเมืองใดเลย
ยกเว้นพรรคเก่าแก่พรรคเดียวพรรคนั้น
ยกเว้น2 กพ2557/2014
ที่การเลือกตั้งถูกกระทำให้’รอปฏิรูปก่อน’ (อีก)
ผมนึกง่ายๆว่าพวกนี้ก้อลูกศิษย์เรานี่
ไม่เชียร์ศิษย์แล้วจะไปเชียร์ใคร
นึกง่ายๆว่าพวกนี้เปนคนรุ่นใหม่
เราคนรุ่นเก่าน่าจะไปช่วยนิดๆหน่อยๆไม่น่าจะหนักหนาอะไร
เปลี่ยนสภาพจากไทยมุงไทยดูไทยเฉย
ขยับตัวนิดๆหน่อยๆก้อยังดี
นึกง่ายๆว่าพรรคนี้พวกนี้เปนมดตัวเล็กๆที่ยิ้มสวยพูดจาเข้าท่า
คงได้ส.ส. ไม่กี่คน
ทั้งหน้าก้อใหม่ๆ
อะไรๆก้อดูจะฝันๆอุดมคติๆครับ
แต่ๆการเมืองไทยแบบห่วยแตกพิกลพิการมากว่าครึ่งศตวรรษ
ก้อทำให้อนาคตใหม่มดยิ้มเพียง5 เดือนก้าวออกมาจากมุมมืด
จากมดตัวน้อยๆดูคล้ายจะกลายเปนเสือตัวโต
กลายเปนที่หวาดวิตกของชนชั้นปกครอง
สถาบันเงินทุนและความคิดเดิมๆ
ที่วิตกจริตกับการเลือกตั้ง
วิตกจริตกับระบอบประชาธิปไตยโดยรัฐสภา
วิตกจริตกับแนวความคิดสิทธิเสมอภาค
ที่คนธรรมดาๆมีหนึ่งเสียงเท่าๆกัน
ดังนั้นจึงต้องหยุดต้องชะลอต้องรัฐประหารมา
ก้อ13 ครั้งแล้ว
ต้องฉีกรัฐธรรมนูญมาแล้ว
ก้อ19 ฉบับ
ต้องยุบพรรคการเมืองมาแล้วนับไม่ถ้วน
ต้องตั้งพรรคการเมืองเฉพาะกิจเชียร์ตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า
นี่ยังไม่นับว่าได้ก่ออาชญากรรมรัฐเข่นฆ่า
ทั้งในกรุง(14&6 ตุลา16&19 – พฤษภา35/53
และนอกกรุง(ปราบปรามคอมฯ& ชนกลุ่มน้อย) หลายต่อหลายครั้ง
มาถึงวันนี้ทั้งพรรคอนาคตใหม่
ทั้งธนาธรทั้งปิยบุตรทั้งช่อทั้งชำนาญ….ทั้งผู้ที่ยังไม่ปรากฏนามชัดแจ้ง
ถูกทำสาดโคลนป้ายสี
ให้ดูเหมือนเปน’ปีศาจประชาธิปไตย’ (Specters of Democracy)
ทั้งๆที่ก้อเพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาครั้งเดียว
ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้เปนรัฐบาลบริหารราชการ
ที่จะต้องรีบจัดการเสียให้สิ้นก่อนที่จะสายเกินไป
ดังนั้นพวกเขาพวกเธอ
คงต้องถูกจำกัด= contained
หรือไม่ก้อกำจัด= eliminated ให้จงได้
เพื่อความอยู่ยั้งยืนยงของอะไรๆที่เก่าๆเดิมๆนั่นแหละ
ครับผมก้ออดวิตกไม่ได้ว่า
Will FFP survive the dirty politics of the Thai ruling class?
แล้วอนาคตใหม่ธนาธรปิยบุตรช่อและชำนาญ….ฯลฯฯลฯ
จะรอดน้ำมือน้ำตีนการเมืองสกปรกของชนชั้นปกครองไทยๆเดิมๆหรือ?
ชาญวิทย์20/1/2020
อนาคตใหม่วางจุดขายที่คนรุ่นใหม่ธนาธรวางตำแหน่งเป็นพ่อสาวกเป็นลูก
เวลาพูดธนาธรจะใช้สรรพนามแทนตัวเขาว่า”พ่อของฟ้า”
ดังนั้นจึงขอแสดงยินดีกับอดีตอธิการฯมธ. ด้วย
ที่ได้เป็นทั้งสมาชิกพรรคอนาคตใหม่
และได้เป็นทั้ง”ลูกของธนาธร”!
ก็อยากให้คุณชาญวิทย์เบาใจว่าอนาคตใหม่ธนาธรปิยบุตรช่อและชำนาญ
รอดน้ำมือน้ำตีนการเมืองสกปรกของชนชั้นปกครองไทยๆเดิมๆได้แน่นอน
แต่จะรอดน้ำมือกฎหมายได้หรือไม่นั้นขอบอกว่า……
ทุกคนทัดเทียมกันทางกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม
ยกเว้นคนผู้นั้นใช้”สิทธิเถื่อน” ตามกระบวนการ”ช่องทางธรรมชาติ” เอาตัวรอดไปก่อนเช่นทักษิณยิ่งลักษณ์
ดังนั้นวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ธนาธรและพวกรอดหรือไม่รอดถึงตอนนี้น่าจะรู้แล้ว
จึงไม่ตอบชาญวิทย์ด้วยเหตุแห่งคำวินิจฉัยในวันนี้แต่ขอตอบในกรณีเป็นการทั่วๆไปว่า
ถ้าธนาธรและพวก……..
มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังที่เป็นอยู่ต่อไปเรื่อยๆละก็
น้ำมืออาจรอด
แต่…น้ำตีนอย่างที่คุณชาญวิทย์วิตก
ไม่น่ารอด!?
ก่อนๆไม่แน่ใจว่าคนระดับอธิการบดีมธ.จะไร้สำนึกไหลไปตามการทำ-การพูดธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ที่จ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบันได้อย่างไร?
แต่ตอนนี้แน่แล้ว
ยิ่งบอกว่าสมัครสมาชิกตลอดชีพของพรรคด้วยแล้วแน่ยกกำลังสองไปเลย
เพราะก่อนสมัครคุณชาญวิทย์ก็ต้องศึกษานโยบายพรรคและข้อบังคับพรรคเห็นดี-เห็นงามพร้อมตามสนับสนุนแล้วจึงสมัคร
ฉะนั้นคุณชาญวิทย์ก็ต้องทราบแล้วว่าทั้งนโยบายพรรคและข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่
ไม่มีตรงไหนเลยแม้แต่วรรคเดียว-คำเดียวที่ใช้คำว่า
“ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
มีแต่ใช้คำว่า”หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ”
ในหมวด”อุดมการณ์ทางการเมือง” ของพรรคก็ใช้คำว่า
“อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่คือเสรีภาพเสมอภาคภราดรภาพ”
ลอกคำขวัญประเทศ”สาธารณรัฐฝรั่งเศส” มาทั้งดุ้น!
“นโยบายพรรค” ก็ใช้คำว่า……….
มุ่งแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญกฎหมายและสถาบันการเมืองทั้งหลายให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญและสิทธิมนุษยชน
ตามแบบ”สาธารณรัฐฝรั่งเศส” อีกนั่นแหละ!
คนระดับเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์มาก่อนงั่งถึงขนาดดูนโยบายพรรคข้อบังคับพรรคแล้วไม่รู้เชียวหรือว่า
พวกนี้มันมีเจตนาอะไรและต้องการใช้เส้นทางการเมืองเดินไปสู่เป้าหมายไหน?
ถ้ารู้……….
ว่าที่ไม่มีคำว่า”ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อยู่ในนโยบายในข้อบังคับพรรคมันบ่งบอกแนวทาง”ปฏิกษัตริย์นิยม”
แต่คุณชาญวิทย์สมัครเป็นสมาชิกตลอดชีพเลยนี่ก็ไม่ต้องให้บอกว่าอาจารย์เห็นดี-เห็นงามยินดีเกาะหางศิษย์ไปลงนรกด้วย
ก็อยากบอกว่าไม่มีการใช้กฎ-กติกาสกปรกกับธนาธรปิยบุตรช่ออย่างที่คุณชาญวิทย์ว่า
มีแต่”อาจารย์สกปรก” กินขี้ลูกศิษย์เท่านั้น!