ศาลนัด 6 ก.พ.อ่านฎีกาคดีบุกบ้านสี่เสาฯ ‘จตุพร’ เผยทำใจรับชะตากรรม หากติดคุกบวกโทษทางการเมืองอีก 10 ปี

วันที่ 6 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา คดีดำเลขที่ 3531/2552 ในคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2550 ภายหลังจากเลื่อนการอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 23 ก.ย. 62 เนื่องจากจำเลยซึ่งเป็นแกนนำนปช. 4 คนยื่นคำร้องขอกลับคำให้การใหม่เป็นรับสารภาพ

สำหรับจำเลยในคดีนี้ประกอบด้วย 1. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ 2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 3.นพ.เหวง โตจิราการ 4.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนายนพรุจ หรือ นพรุฒ วรชิตวุฒิกุล

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 ให้จำคุกนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, น.พ.เหวง และนายวิภูแถลง คนละ 4 ปี 4 เดือน ส่วนนายนพรุจ ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2560 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกแกนนำนปช. คนละ 2 ปี 8 เดือน และนายนพรุจ ยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการ “หยิบข่าวมาคุย” ว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับบรรดาหมู่มิตร เราเองก็น้อมรับชะตากรรม เพราะว่าการเข้าคุกออกคุกกันในช่วง 10 ปี ก็สลับมือกันโดยตลอด บางคนอาจจะมาก บางคนอาจจะน้อย

“ต้องทำใจว่า คนในขบวนการ ออกมา แทบจะไม่เหลืออยู่ในทางการเมือง เพราะว่าจะติดคุกกี่วันก็ตาม หลังจากพ้นโทษก็จะต้องบวกโทษทางการเมืองอีก 10 ปีเช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตร คดียึดทำเนียบก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปีเหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างกัน” นายจตุกร กล่าวและว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ก็ว่ากันตามนั้น ตนก็จะไปให้กำลังใจ.