‘วรงค์’ จี้ ‘ปิยบุตร-ธนาธร’ หยุดสร้างวาทกรรมผู้มีอำนาจ-ผู้กำกับภาพยนตร์ได้แล้ว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากการกระทำผิดกฏหมายของพวกตนเองทั้งสิ้น

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (ซีอีโอรปช.) โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้

ปิยบุตรบิดเบือนหรือไม่รู้???

1.เมื่อมีผู้ร้องเข้ามา คณะกรรมการกกต.ชุดใหญ่จะพิจารณา ถ้าเรื่องไม่มีมูลเรื่องจะตกไป แต่ถ้ามีมูลจะตั้ง
1.1คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เสนอความเห็น
1.2เรื่องจะผ่านมาที่เลขาธิการกกต.(จะมีคณะทำงานชุดหนึ่งพิจารณาก่อนเสนอเลขาธิการกกต. เหมือนธุรการ)
1.3เสนอเรื่องต่อให้อนุกรรมการวินิจฉัย
1.4เรื่องต้องจบที่คณะกรรมการกกต.ชุดใหญ่
เป็นไปตามกฏหมายและระเบียบกกต.ซึ่งจะเอาผิดทางอาญา

2.เมื่อมีข้อเท็จจริงถึงการกระทำผิดของพรรคการเมือง นายทะเบียนพรรคการเมือง (เลขาธิการกกต.โดยทำแหน่ง) เสนอเรื่องกกต.ใหญ่ และมีมติชงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้ โดยไม่ต้องตั้งข้อหาตามกฏหมายพรรคการเมือง ซึ่งเป็นความผิดทางการเมือง คนละส่วนกับอาญา

3.อ้างมีเอกสารหลุดว่า มีการยกคำร้องโดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึง 2 คณะ ซึ่งตามกฎหมายเรื่องต้องยุติทันที………ไม่จริง เพราะคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ยกคำร้องมีเพียงคณะเดียว ส่วนอีกชุดเป็นเพียงคณะทำงานที่พิจารณาเรื่องจากชุดแรก เสนอให้เลขาธิการกกต.พิจารณา มีเพียง 1คนให้ยกคำร้อง อีก 2 คนถือว่าการสืบสวนยังไม่สมบูรณ์

กรณียกคำร้องตามกฏหมายเรื่องต้องยุติทันที……ก็ไม่จริง เพราะถ้าเรื่องมีมูลแล้ว ต้องผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนและจบที่กกต.ใหญ่ทุกกรณี และกรรมการแต่ละชุดเป็นอิสระต่อกัน ยกเว้นไม่มีมูลแต่แรกเรื่องจึงตกไป

4.กรณีที่มีความเห็นยกคำร้องของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดแรก มีเหตุผล
4.1เงินกู้ไม่ใช่รายได้ เป็นการตีความของนักบัญชี ไม่ใช่ของนักกฏหมายตามเจตนารมย์ของกฏหมาย
4.2 พรรคการเมืองอื่นก็มีการกู้ เป็นการยกตัวอย่างรายงานปี 2556 ซึ่งกฏหมายคนละฉบับกับปี 2560
4.3 กฏหมายไม่ได้ห้ามถือว่ากู้ได้ ก็ไม่ได้ตีความตามเจตนารมย์ของกฏหมาย ที่ไม่ต้องการให้มีนายทุนมาครอบงำพรรคการเมือง

5.ไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรค อนค. ต่อสู้คดีในฐานความผิดตามมาตรา 72 แต่อย่างใด…..ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมือง(เลขาธิการกกต.)สามารถเสนอเรื่องให้กกต.ใหญ่ ตามข้อเท็จจริงที่ได้รับ โดยไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหา ตามกฏหมายพรรคการเมือง คดียุบพรรคในอดีตก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา

6.เอกสารหลุดของ กกต. ทางพรรคตั้งใจไว้ว่าจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดกระบวนการไต่สวน เพื่อเรียกเอกสารดังกล่าวออกมาจาก กกต. และนำมาพิสูจน์กันในศาล…….เรื่องนี้เป็นการเบี่ยงประเด็นของนายปิยบุตร เพราะกรรมการแต่ละขั้นตอนของกกต.นั้นเป็นอิสระต่อกัน และไม่มีผลใดๆ ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะหาคำตอบเพียงว่าการกู้เงินนั้นทำได้หรือไม่

7.การบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด พบว่า มีการต่อสู้ และเปิดโอกาสไต่สวนในศาล………จะมาเทียบกันไม่ได้ เพราะคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ ต้องมีการไต่สวนข้อเท็จจริง แต่เงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ ข้อเท็จจริงสรุปไปแล้วว่ามีการกู้จริง ศาลเพียงแต่ตีความกฏหมายเท่านั้น แต่ศาลก็เปิดโอกาสให้ทำความเห็นเสนอศาลทั้งสองฝ่าย

8.ทราบว่าพรรคอนาคตใหม่ใช้หนี้นายธนาธร เป็นเงินสดถึงสองครั้ง ครั้งแรก 14 ล้านบาท ครั้งสอง 8 ล้านบาท ช่วยแจงหน่อยซิว่า เงินมากขนาดนี้ ทำไมแบกเป็นเงินสดใช้หนี้กัน ทำไมไม่จ่ายเชคหรือโอนเข้าบัญชี เพราะดูแล้วแปลกๆ มีหลักฐานชี้แจงหรือไม่

9.อยากเรียกร้องทั้งนายธนาธร นายปิยบุตรหยุดสร้างวาทกรรมผู้มีอำนาจ และวาทกรรมผู้กำกับภาพยนตร์ เหมือนต้องการชี้นำว่าคดีที่เกิดขึ้นถูกชี้นำ ทั้งๆที่เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากการกระทำผิดกฏหมายของพวกตนเองทั้งสิ้น ควรหันมาดูข้อผิดพลาดของตนเอง ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น ที่สำคัญหยุดข่มขู่ได้แล้วครับ บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแปรและต้องเดินไปข้างหน้า

#รู้ทันพวกชังชาติ