‘อาลีบาบา’ลงนามซื้อทุเรียนไทยปี62ไม่น้อยกว่า3พันตัน

บริษัทในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ลงนามร่วมมือกับตัวแทน 3 สหกรณชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก ซื้อขายทุเรียนในฤดูกาลปี 2562 โดยไม่ผ่านพ่อค้าคน โดยมี “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” ร่วมเป็นสักขีพยาน คาดจะมีปริมาณไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง Shanghai Win Chain Supply Management Co., Ltd. หรือ “Win- Chain” กับสหกรณ์ผู้ผลิตทุเรียน 3 แห่งในภาคตะวันออก ได้แก่ สหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด จังหวัดระยอง สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี และสหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัด จังหวัดตราด เพื่อสั่งซื้อทุเรียนของสหกรณ์นำไปจำหน่ายที่ประเทศจีน

การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้สืบเนื่องจากที่บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ของจีนได้ให้ความสนใจและต้องการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากไทย รวมถึงทุเรียน ไปจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ ของอาลีบาบา เช่น ผ่านเว็บไซต์ Tmall.com กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ประสานความร่วมมือให้ตัวแทนของ Win-Chain ประชุมหารือกับตัวแทนของสหกรณ์ในภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา

จากการหารือร่วมกันครั้งนั้น ตัวแทนของอาลีบาบาได้แจ้งความประสงค์ที่จะทำธุรกิจซื้อขายทุเรียนกับสหกรณ์โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง จากนั้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2561 ทางบริษัทได้ส่งทีมงานลงพื้นที่สวนผลไม้ของสมาชิกสหกรณ์ทั้ง 3 จังหวัด เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตทุเรียนตามมาตรฐาน GAP ตั้งแต่ในส่วนของเกษตรกร ก่อนจะรวบรวมส่งให้สหกรณ์คัดคุณภาพ และบรรจุลงกล่องเพื่อขนส่งจำหน่ายสู่ตลาด ทำให้บริษัทฯเกิดความมั่นใจว่าในการสั่งซื้อทุเรียนจากสหกรณ์จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ และได้มีการร่วมกันวางระบบโลจิสติกในการขนส่งสินค้าเพื่อให้ทุเรียนจากประเทศไทยไปถึงจีนได้เร็วสุด ซึ่งทุเรียนของไทยที่จะส่งจำหน่ายให้อาลีบาบา ทางบริษัทจะนำไปขายผ่านทางออนไลน์และช่องทางต่างๆที่เป็นเครือข่ายตั้งอยู่ในเมืองต่างๆของจีน เช่น Tmall และ RT-Mart

ทั้งนี้ การลงนามในบันทึกข้อตกลงฯฉบับดังกล่าว ถือเป็นข้อตกลงในการสนับสนุนและความร่วมมือด้านการส่งเสริมพัฒนาและผลักดันการส่งออกทุเรียนในรูปแบบสดและแช่แข็งส่งไปสู่ตลาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะมียอดสั่งซื้อทุเรียนของสหกรณ์นำไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ในฤดูกาลปี 2562 ปริมาณไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน หรือ 800,000 ลูก มูลค่าประมาณ 360 ล้านบาท (ราคาซื้อขาย 120 บาท/กิโลกรัม)

สาระสำคัญภายในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ได้มีการกำหนดให้สหกรณ์ทำหน้าที่แนะนำและส่งเสริมสมาชิกสหกรณ์ให้พัฒนาคุณภาพผลผลิตทุเรียนเพื่อการส่งออก และร่วมกันผลักดันการส่งออกทุเรียนสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสหกรณ์จะต้องความสำคัญในการผลิตและส่งมอบผลผลิตที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามความต้องการของบริษัท

ขณะเดียวกันสหกรณ์จะต้องมีการติดโลโก้หรือสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ของบริษัท Win-Chain และข้อมูลของบริษัทลงบนกล่องบรรจุสินค้าด้วย ส่วนข้อตกลงเรื่องราคา ทางบริษัท Win-chain จะรับซื้อผลผลิตทุเรียนจากสมาชิกสหกรณ์ในราคาที่เป็นธรรม และขายในราคาที่ครอบคลุมราคาทุน และราคาค่าบริหารจัดการ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในด้านการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน และใช้แนวทางตลาดนำการผลิต ซึ่งเป็นแนวคิดในการบริหารจัดการสินค้าเกษตร เพื่อให้ปริมาณการผลิตและความต้องการสินค้าเกษตรมีความสมดุลกัน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนองนโยบายดังกล่าว ด้วยการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการสนับสนุนให้สหกรณ์มีระบบบริหารจัดการธุรกิจที่ดี

ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นในการรวบรวมผลผลิตและการขนส่งสินค้าให้กับสหกรณ์ และประสานช่องทางการตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายผลไม้ระหว่างสหกรณ์กับภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งความร่วมมือกับอาลีบาบา กรุ๊ปของจีนในครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสทางการตลาดผลไม้ของสหกรณ์ครั้งสำคัญที่จะสามารถส่งผลไม้ของไทยไปจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดออนไลน์ของประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่กว้างและเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยด้วย หากความร่วมมือในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการขยายความร่วมมือในการสั่งซื้อผลไม้ชนิดอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป

'อาลีบาบา'ลงนามซื้อทุเรียนไทยปี62ไม่น้อยกว่า3พันตัน 1