‘อังคณา-อดีตกสม.’ ตำหนิกองทัพ หละหลวมปล่อย ‘จ่าคลั่ง’ ชิงอาวุธไปก่อเหตุร้าย จี้ปฏิรูปกองทัพเปิดช่องให้ปชช.ตรวจสอบได้

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่9 ก.พ.2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้

#ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ต้องให้กำลังใจมากที่สุดคือครอบครัวผู้เสียชีวิตและขอ#ชื่นชมเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามสตช. ที่พยายามคลี่คลายเหตุการณ์นี้อย่างดีที่สุด

เมื่อคืนที่ผ่านมาหลายคนคงนอนไม่หลับและคงมีคำถามคาใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่น

1) ผู้ก่อเหตุได้กระทำการคนเดียวคล้ายกับการก่อการร้ายแบบLone Wolf ที่เป็นลักษณะการก่อการร้ายแบบใหม่ที่โลกกำลังเผชิญโดยมีแรงจูงใจจากความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม(ตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าว) มีการlive สดการก่อเหตุเหมือนไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองกระทำผิดอีกทั้งมีการโต้ตอบกับผู้ที่เข้ามาให้ความเห็นต่างๆอย่างไม่เกรงกลัว 

2) ผู้ก่อเหตุที่มีอายุแค่30 ต้นๆเพียงลำพังคนเดียวสามารถปล้นอาวุธจากค่ายทหารมาก่อเหตุอุกอาจเช่นนี้ได้อย่างไรทำไมจึงหละหลวมในการเก็บรักษาอาวุธสงครามได้มากขนาดนี้และอะไรเป็นเหตุจูงใจให้ผู้ก่อเหตุกระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเช่นนี้ 

เรื่องนี้คงต้องเป็น#ความรับผิดชอบของท่านผบทบ. และ#ท่านแม่ทัพภาค2 อย่างปฏิเสธไม่ได้เนื่องจากเป็นสาเหตุแห่งการสูญเสียชีวิตสร้างความหวาดกลัวและความเศร้าสะเทือนใจอย่างมากแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์

3) มีข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการนำsocial media มาใช้อย่างมากทั้งตัวผู้ก่อเหตุเองสื่อมวลชนรวมถึงหน่วยงานกู้ภัยต่างๆสื่อบางสำนักมีการแข่งขันในการนำเสนอข่าวทำให้มีการรายงานการวางกองกำลังปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจทำให้ผู้ก่อเหตุร้ายทราบถึงความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน

#สำคัญที่สุดคือการนำเสนอภาพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บพบภาพการlive สดการทำCPR ผู้ได้รับบาดเจ็บในรถกู้ภัยหรือรถพยาบาลซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิศักดิ์ศรีของบุคคลและครอบครัวอย่างมากอีกทั้งยังเป็นความไม่รับผิดชอบของหน่วยงานและองค์กรเหล่านั้นด้วย

เหตุการที่เพิ่งผ่านไปแม้จะจบลงแล้วแต่หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและตรวจสอบแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุเพื่อหาทางป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตโดยเฉพาะ#กองทัพบกเพราะกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคลกรของกองทัพและอาวุธที่เป็นของกองทัพบกแต่ก็ไม่ทราบจะหวังได้แค่ไหนเพราะหากยังไม่มีการ#ปฏิรูปกองทัพก็คงเป็นการยากที่ประชาชนจะสามารถตรวจสอบกองทัพและให้ข้อเสนอแนะใดๆเพื่อการปรับปรุงได้