โลกสวย! นักวิชาการชี้ ไทยกำลังขว้างโอกาสทิ้งกลางทะเล หลังห้าม ‘เรือเวสเตอร์ดัม’ เข้าเทียบท่า

ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์เศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กPiti Srisangnam โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรากำลังขว้างโอกาสที่ดีที่สุดทิ้งไปกลางทะเล

คำสั่งห้ามไม่ให้เรือMS #Westerdam เข้าเทียบท่าที่ประเทศไทยคือคำสั่งที่โหดร้ายและในซึ่งมนุษยธรรมเรือที่ถูกปฏิเสธมาแล้ว3 ท่าคือฟิลิปปินส์ญี่ปุ่นและกวมลอยเรือมาแล้วกว่า20 วันลองนึกถึงจิดใจทุกคนบนเรือดูว่เขากำลังสิ้นหวังเพียงใด

พวกเรารู้หรือเปล่าว่าเรือลำนี้เดินทางออกมาจากสิงคโปร์ตั้งแต่16 มกราคมและจนถึงวันนี้(ผ่านมาเกือบ1 เดือนแล้ว) ยังไม่มีใครป่วยหรือมีอาการไม่สบายเลยแม้แต่คนเดียวจากการคัดกรองเบื้องต้นภายในเรือแต่ที่หลายๆประเทศไม่ยอมรับให้เรือลำนี้จอดเทียบท่าก็เป็นเพียงเพราะเรือลำนี้เดินทางออกมาจากเมืองท่าที่มีการแพร่ระบาด… 

พวกเรารู้หรือไม่ว่าเรือเวสเตอร์ดัมมีผู้โดยสารเป็นคนไทย19 คน(ชาย13  หญิง6 คน  )

ลูกเรือคนไทย2 คนรวมคนไทยบนเรือ21 คน

การรับให้เขาเทียบท่าอาจจะไปใช้facilities ของทหารเรือที่ฐานทัพเรือสัตหีบจากนั้นคัดกรองกักบริเวณเพื่อสังเกตอาการคือเรื่องของมนุษยธรรมเราต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ผู้ประสบภัยไม่ใช่่ผลักใสเขาออกไป

เรามีระบบป้องกันภัยทางสาธารณสุขอันดับที่6 ของโลกเรามีสถานที่ที่น่าจะเพียงพอที่จะดูแลทุกคนได้แต่เรากลับเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

จากข้อมูลของGlobal Health Security Index (#GHS Index) (เครดิตข้อมูลจากภาคภูมิแสงกนกกุลhttps://www.facebook.com/notes/pak-bear/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/10157830176039174/ )

ประเทศสมาชิกจะถูกถามคำถามทั้งหมด140 คำถามและสร้างตัวชี้วัดออกมาทั้งหมด34 ตัวและตัวชี้วัดย่อยอีก85 ตัวตัวชี้วัดเหล่านี้ถูกจัดกลุ่มออกมาเป็น6 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่

1. #การป้องกันโรคมีระบบสาธารณสุขที่สามารถตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ทันท่วงทีหรือไม่หรือการแพร่ระบาดของการก่อการร้ายชีวภาพละความมั่นคง

2. #มีระบบการตรวจจับและรายงานมีระบบและศักยภาพการตรวจจับการแพร่ระบาดของโรคได้แต่เนิ่นๆและสามารถส่งรายงานในระดับนานาชาติได้

3. #การตอบสนองต่อปัญหาอย่างรวดเร็วมีความพร้อมและการเตรียมตัวมีแผนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกรณีเกิดการแพร่ระบาดโรค

4.  ระบบสุขภาพ#มีระบบสุขภาพที่มีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยมีบุคลากรและเครื่องมือแพทย์ที่เพียงพอและพร้อมในการรักษาผู้ป่วย

5. #การปฏิบัติตามข้อกำหนดสากลมีนโยบายในการปฏิบัติตามข้อกำหนดสากลIHR ขององค์กรอนามัยโลก

6. #สภาพแวดล้อมต่อความเสี่ยงเป็นการประเมินความเสี่ยงทางการเมืองและความมั่นคงเช่นความสามารถในการเตรียมตัวหรือรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจสังคมสาธารณูปโภคพื้นฐานมีเพียงพอหรือไม่ในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับประเทศไทยได้คะแนนรวม75.7/100 คะแนนโดยได้คะแนนด้านการป้องกันโรค75.7 คะแนนด้านระบบการตรวจจับและรายงาน81 คะแนนด้านการตอบสนองต่อปัญหาอย่างรวดเร็ว78.6 คะแนนด้านระบบสุขภาพ70.5 คะแนนด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดสากล70.9 คะแนนโดยคะแนนในส่วนที่แย่คือความเสี่ยงต่างๆด้านเศรษฐกิจการเมืองในการแพร่ระบาดของโรคที่ได้คะแนนเพียง56.4 คะแนนซึ่งไทยได้คะแนนสูงจากกรณีการควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดตะวันออกกลางMERS ในปี2015 ที่สามารถตรวจจับได้ก่อนและเข้าควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ทันท่วงทีรวมถึงการมีสถาบันวิจัยการแพร่ระบาดโรคเขตร้อนและมีการทำงานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านนี้รวมถึงการมีระบบสุขภาพที่ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้

จะเห็นได้ว่าเรามีความสามารถสูงมากและด้านที่คะแนนต่ำคือด้านที่เราอ่อนที่สุดนัน่คือสภาพแวดล้อมต่อความเสี่ยงเป็นการประเมินความเสี่ยงทางการเมืองและความมั่นคงเช่นความสามารถในการเตรียมตัวหรือรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจสังคมสาธารณูปโภคพื้นฐานมีเพียงพอหรือไม่ในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคสู่ประเทศเพื่อนบ้านแน่นอนการรับเรือลำนี้เข้ามาจะทำให้มาตรฐานด้านนนี้ของประเทศไทยสูงขึ้นในเวทีโลกและเมื่อรวมกับ1-5 เราน่าจะป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างดี

คุณรับเรือลำนี้เข้ามาเทียบท่าคุณอาจจะถูกประชาชนบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจด่า

คุณไม่ให้เรือลำนี้มาจอดเทียบท่าคุณก็ถูกประชาชนด่าเช่นกัน

#ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนคุณก็ถูกด่าทำไมไม่เลือกทางที่เห็นแก่ความเป็นคนเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อน

ลองนึกดูว่าคนที่อยู่ในเรือเช่นนี้เขาจะเดือดร้อนขนาดไหนที่ไม่สามารถขึ้นฝั่งมาได้แล้วเกือบเดือนถ้าเขาขึ้นฝั่งได้ที่ประเทศไทยเขาจะซาบซึ้งและจดจำนึกถึงกระเทศไทยตลอดไปว่าเราคือผู้ที่ช่วยดูแลในยามที่พวกเขาเดือดร้อนเราคือ#มิตรแท้ท่ามกลางความยากลำบาก

การช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันคือเรื่องที่ถูกต้องสิ่งที่เราต้องทำคือวางแผนรับมือกับสถานการณ์ให้ดีประชาสัมพันธ์แผนรับมือที่ดีให้สาธารณชนเข้าใจหลายๆคนอาจจะกังวลเรื่องกำลังเงินกำลังคนว่าเราจะเอาที่ไหนไปดูแลพวกเขาอย่าลืมนะครับเราเป็นหนึ่งในGlobal Medical Hub ที่เราภูมิใจเราสร้างรายได้มหาศาลจากการดูแลสุขภาพคนทั้งโลกเรามีศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน(ACMM) ตั้งอยู่ในประเทศไทยส่วนเรื่องกำลังเงินผมเชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ผู้ประสบภัยคนไทยใจบุญช่วยเหลืออยู่แล้วและที่สำคัญผมเชื่อว่าประชาคมโลกประชาคมอาเซียนก็ไม่ทอดทิ้งไทยให้เผชิญหน้าแบกภาระตามลำพังอยู่แล้วอยู่ที่เราจะรู้จักประสานงานหรือไม่เท่านั้นเอง(อ่านเพิ่มเติมวิธีการรับมือในภาวะวิกฤตได้ที่นี่ครับhttps://www.facebook.com/104444664454103/posts/108628970702339/ )

ถ้าไทยอยากจะยกระดับการพัฒนาการของประเทศอยากมีบทบาทความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาชาติเราต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครับ

ในอนาคตเรื่องราวเหล่านี้จะ#เสริมบทบาทของไทยในเวทีโลกและเราต้องอย่าลืมนะครับในระยะยาวไวรัสจะหยุดระบาดแต่ไวรอลที่เกิดจากความประทับใจทุกคนจะบอกต่อๆกันไปว่าไทยเราดูแลคนเหล่านี้ดีแค่ไหนไทยเรามีมาตรฐานทางมนุษยธรรมสูงกว่าหลายๆประเทศเหลานี้จะนำกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับHi-end กลุ่มนี้ในเรือและนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆจากทั่วโลกให้มาเป็นลูกค้าประเทศไทยไปอีกนานแสนนาน

แต่ตอนนี้ก็ช้าไปแล้วครับเพราะจากที่เราเคยอนุญาตให้เขาเทียบท่าจากนั้นเราไม่ให้เขาเทียบท่านั่นเท่ากับเราได้โยนโอกาสที่ดีในท่ามกลางวิกฤตทิ้งลงทะเลไปแล้วครับโอกาสที่จะพิสูจน์ว่าเรามีมนุษยธรรม

มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเพราะเรารู้จักที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ