แม่ทัพฝ่ายประชาธิปไตย ลั่นการยุบพรรคการเมืองไม่ควรเกิดขึ้นในทุกกรณี ‘อยุติธรรม’ ประโยคนี้ต้องไม่มีในไทย

นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นนักการเมืองคนสำคัญในการเรียกร้องประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2563 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การยุบพรรคการเมืองไม่ควรจะเกิดขึ้นในทุกกรณี

พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายเผด็จการไม่ควรจะถูกยุบ เพราะพรรคการเมืองคือศูนย์รวมคนที่มีความคิดอุดมการณ์เดียวกันมารวมกัน เป็นสถาบันที่สังคมทั่วโลกสร้างขึ้นมาให้เป็นพรรคการเมือง ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ตามนโยบาย ตามอุดมการณ์ และตามอุดมคติของกลุ่มตน

หากพรรคการเมืองใดได้รับความนิยม และได้เสียงส่วนใหญ่จากประชาชนพรรคการเมืองนั้นก็ได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

หากพรรคการเมืองใดได้เสียงส่วนน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ประชาชนและประเทศชาตินั้นๆก็จะได้ประโยชน์สูงสุด

หากพรรคการเมืองใดไม่ได้รับความนิยมพรรคการเมืองนั้นก็จะค่อยๆสูญหายไปตามธรรมชาติเพราะประชาชนไม่เลือก

แต่ประเทศไทยไม่เป็นเช่นนั้น เพราะความจริง โครงสร้างอำนาจการปกครองประเทศไทยของเราเป็นเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย รากเหง้าของปัญหาเกิดจากนายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูงหลายคน องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมและพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการบางพรรคได้ร่วมกันสร้างสถานะการณ์ให้วุ่นวายแล้วอ้างเป็นเหตุทำรัฐประหารยึดอำนาจประชาชนไปเกือบ 20 ครั้ง เมื่อยึดอำนาจประชาชนได้แล้วศาลและอำนาจตุลาการโดยเฉพาะศาลฎีกา และ ศาลรัฐธรรมนูญแทนที่จะปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ปฏิเสธอำนาจรัฐประหารที่ไม่ชอบธรรม กลับก้มหน้าน้อมรับคำสั่งของคณะรัฐประหารซึ่งถือเป็นโจรกบฏ นำเอากฎ คำสั่งทุกอย่างว่าของโจรกบฏมาเป็นกฎหมาย แล้วนำเอามาบังคับใช้กับคนไทย รับรองความชอบธรรมให้เผด็จการทุกครั้งโดยศาล และกระบวนการยุติธรรมไทยไม่เคยคัดค้าน โต้แย้งอำนาจที่ไม่มีความชอบธรรมที่ได้มาจากการปล้นอำนาจประชาชนเลย

คณะรัฐประหารทุกคณะจึงได้ใจ เพราะเมื่อทำการสำเร็จจะได้ทั้งอำนาจ ได้เกียรติยศ ได้ทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาล คือปล้นครั้งเดียวร่ำรวยเงินทองเป็นหมื่นล้านแสนล้านพวกศาล พวกองค์กรอิสระก็ได้รับการบูรบำเหน็จ ขึ้นเงินเดือน พวกนายทุนผูกขาดก็ได้รับสิทธิพิเศษผูกขาดเอารัดเอาเปรียบคนไทยจนร่ำรวยมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ทั่วโลกจะมองว่าคนไทยไม่หวงแหนสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตยของตน โจรในเครื่องแบบจึงได้ใจ ยิ่งใหญ่คับฟ้า เสวยสุขบนความทุกข์ยากแร้นแค้นของประชาชนส่วนใหญ่

รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ในทางรัฐศาสตร์ และทางนิติศาสตร์ทั่วโลกไม่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนเพราะขณะทำประชามติ คนเห็นต่างถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีสารพัด ไม่เป็นการทำประชามติอย่างอิสระ และ เสรีรัฐบาลเผด็จการใช้อำนาจรัฐทุกอย่างบังคับ ขู่เข็ญหลอกลวงประชาชนให้รับประชามติ เพื่ออ้างเป็นความชอบธรรมที่จะใช้กดขี่ ข่มเหง และสืบทอดอำนาจของเผด็จการทรราชตลอดไป

บรรดาลิ่วล้อ บริวารของเผด็จการทรราช ทั้ง คสช. ค.ร.ม. สนช. สปท. กรธ. องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมืองบางพรรค ที่เป็นเสาคำ้ยันให้ระบอบเผด็จการ ก็ถือว่าเป็นองค์กรเถื่อนที่ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ที่จะออกกฎหมาย(กฎโจรกบฏ) มาเพื่อประโยชน์ของฝ่ายเผด็จการ ในทางวิชาการจึงกล่าวได้ว่า พวกเขา นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูงหลายๆคน องค์กรอิสระศาล และกระบวนการยุติธรรม คือพวกเดียวกัน แบ่งหน้าที่กันทำ สมประโยชน์กัน รับลูกกัน อย่างแนบเนียนและโต้แย้งได้ยาก โดยอ้างว่าเป็นกฎหมาย ที่ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วทั้งที่มันไม่ใช่ กฎหมาย แต่มันคือกฎโจรกบฏที่ออกมาเพื่อทำลายประชาธิปไตยทำลายอำนาจของประชาชน เป็นกฎเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการอย่างแท้จริง…

ก่อนนี้พรรคไทยรักษาชาติก็ถูกยุบพรรคไปแล้ว คิวต่อมาคืออนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญกับกระบวนการยุติธรรมไทยก็รับเรื่องยุบพรรคไว้โดยจะตัดสินวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้

อ่านต้นฉบับ