‘ณัฐวุฒิ’ แนะ เพื่อไทย-อดีตอนาคตใหม่ เคลียร์ปมซักฟอกกินเวลา แบบเพื่อนพี่น้อง

ทีมงาน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้โพสต์ความคิดเห็นทางการเมืองของนายณัฐวุฒิ ที่กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ และยูทูบ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่อยู่เหนือความคาดหมายล่ะครับ รัฐมนตรีทั้ง 6 คนได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและงูเห่าฝ่ายค้าน ผ่านเรียบ

เซอร์ไพรส์นิดหน่อย คะแนนพล.อ.ประวิตรมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์นี่จะสะท้อนว่าใครมีบารมีเหนือกว่าในรัฐบาลตลอดมาหรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่จบแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจบเลย เพราะหลายประเด็นที่ฝ่ายค้านเค้าหยิบมาอภิปราย คำตอบของฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถล้างข้อสงสัยในใจประชาชนให้หมดลงไปได้ จึงต้องตามกันต่อว่าหลังจากนี้รัฐบาลจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่

สำหรับผมเห็นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ทำให้รัฐบาลซึ่งมากด้วยรอยช้ำทางการเมืองอยู่แล้ว บอบช้ำหนักขึ้นไปอีก

-โหวต ‘ธรรมนัส’ เพราะขัดมติพรรคไม่ได้?

รัฐมนตรีที่ได้เสียงไว้วางใจน้อยที่สุด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คงเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องแบกรับและต้องตอบคำถามไปอีกนาน ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนะครับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เค้าถึงขั้นออกมาแถลงข่าวแสดงความปวดร้าวจำใจสุดฝืนว่าที่ต้องลงมติสนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส เป็นเพราะมติพรรคเห็นชอบให้ทำแบบนั้นทั้งที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรค

อันนี้บอกตรงๆ ว่าผมฟังไม่เข้าใจ ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย แล้วประกาศว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภา ยึดถืออุดมการณ์พรรคเหนือสิ่งอื่นใด

แต่วันนี้กับรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาว่ามีมลทินในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ประวัติชีวิตมีปัญหาอย่างยิ่งและมีข้อสงสัยอย่างร้ายแรง สำหรับคุณสมบัติของคนเป็นรัฐมนตรี

ประชาธิปัตย์จะอาศัยลูกเล่นเก่าๆ มาอธิบายเอาตัวรอด เป็นไปไม่ได้ล่ะครับ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ขัดอุดมการณ์พรรคแต่ยังมีมติเห็นชอบ จะต้องอธิบายอะไรกันอีก

น่าสังเกตก็คือส.ส.ส่วนใหญ่ใน 17 คนที่ออกมาบอกว่าฝืนใจลงมติ เป็นกลุ่มใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือจะถึงวาระที่ประชาธิปัตย์ต้องแตกกันอีกที เรื่องนี้ก็ต้องจับตามองครับ

-เพื่อไทย อนาคตใหม่ กับความคาใจประชาชน

การกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อไทยกับอนาคตใหม่เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจับตามองครับ เรื่องการควบคุมเวลาไม่ได้ เพื่อไทยยอมรับผิดและขอโทษอนาคตใหม่ไปแล้ว นี่ก็ถูกต้อง

แต่ถ้ายังคุมกันไม่ได้แบบนี้อีกต่อไป ผมว่าเพื่อไทยก็จะอยู่ในสถานการณ์ที่จะถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ของแบบนี้ต้องเคารพ ให้เกียรติและรับผิดชอบร่วมกันนะครับ

อย่าไปคิดว่าอนาคตใหม่มาใหม่ทั้งพรรค เพื่อไทยใหญ่กว่า จะจัดการแบบไหนอย่างไรก็ได้ ต้องมองให้เห็นนะครับว่าตลอดการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ ทำได้อย่างมีศักยภาพ การอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้ เขาก็ทำให้เห็นแล้วว่ามีของ หลายเรื่องหลายประเด็นสร้างความสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลอย่างหนักหนาสาหัส

ที่สำคัญก็คือ ตัวพรรคอนาคตใหม่ เค้าอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องแสดงศักยภาพของส.ส.ทุกคนที่ยังเหลืออยู่ให้เกิดความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชนและสมาชิกพรรคว่าไปต่อได้

ดังนั้น แต่ละคนที่เตรียมการอภิปราย จึงมีผลกับความอยู่รอดของก้าวต่อไปในพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น เรื่องอย่างนี้เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ต้องมองให้เห็นและต้องเข้าใจกัน

ส่วนข้อกล่าวหาประเภทว่า เพื่อไทยไปฮั้วกับพล.อ.ประวิตรหรือเปล่า หรือว่า อนาคตใหม่เจตนาจะทำลายเพื่อไทยหรือไม่ ผมว่าอันนี้ตีให้ตกไปเถอะครับเรื่องมันไม่ไปไกลขนาดนั้น

มองไปข้างหน้ากับสถานการณ์ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน เอกภาพของพรรคฝ่ายค้านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง น่าเสียดายหน่อยก็ตรงที่พรรคร่วมฝ่ายค้านส่วนใหญ่มีมติไม่เข้ามาโหวตลงคะแนนไม่ไว้วางใจ ทำให้งูเห่าหลบในส่วนใหญ่เลยไม่ต้องเผยตัวออกมา

ที่เห็นว่ามีแล้ว ผมยังยืนยันว่ามีอีก แต่อย่าไปให้ความสำคัญมากเลยครับ สถานการณ์วันนี้ ไม่ได้อยู่ที่คณิตศาสตร์ในสภาแล้วครับ สถานการณ์วันนี้มันอยู่ที่ความชอบธรรมของรัฐบาลและความยอมรับของประชาชนซึ่งสาละวันเตี้ยลงทุกที

มีเสียงเรียกร้องให้ปรับครม.จากหลายฝ่าย แต่ไม่แน่ใจว่าการปรับครม.เพียงพอต่อสถานการณ์หรือไม่ ในเมื่อเสียงเรียกร้องจากนิสิตนักศึกษาวันนี้ ไม่ใช่แค่ปรับครับ เขาต้องการเปลี่ยนรัฐบาล.