นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องหัวข้อเรื่อง “แฟลชม็อบ” โดยมีรายละเอียดดังต่อไป
1.เห็นน้องๆลูกหลาน นิสิต นักศึกษา หลายมหาวิทยาลัย จัดการชุมนุมในมหาวิทยาลัย เมื่อเร็วๆนี้ และถูกเรียกกันว่า แฟลชม็อบ แล้ว ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งผมร่วมอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทั้งสองนั้นด้วย แม้ว่าจะเห็นความแตกต่างกันอยู่บ้าง ที่การเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา ก่อนนั้น เกิดจากริเริ่มและการเคลื่อนไหวของพวกเขาเอง ในขณะที่การเคลื่นไหวแฟลชม็อบครั้งนี้ มีข่าวสารของการเข้าไปเคลื่อนไหว ของนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่มทั้งเปิดเผยและซ่อนเร้นและแม้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะมีเหตุไม่เหมาะสมบางเรื่องให้ด่างพร้อย เช่น การพยายามชักธงดำขึ้นเสาธงชาติที่จุฬาฯ ก็ตาม เอาเป็นว่าโดยรวมๆ ผมเข้าใจและยังเห็นใจ นิสิต นักศึกษา เหล่านั้น ล่ะกัน
2.แต่ก็อยากจะฝากบอกไปถึงพวกเขาว่า ประชาธิปไตยที่พวกเขาเรียกร้อง นั้น ผมเห็นมาเยอะแล้ว มันมีทั้งประชาธิปไตยที่ดี ดีมาก ไปถึงดีที่สุด และเช่นเดียวกัน ก็มีประชาธิปไตยที่เลว เลวมาก ไปถึงเลวที่สุดด้วยเช่นกัน แล้วแต่คนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าประชาธิปไตยแล้วจะดีเสมอไป ก็อยากจะบอกพวกเขา ให้ใช้ความคิด พิจารณาให้ถี่ถ้วน ด้วยความอดทน อดกลั้น และด้วยเหตุผล เพราะอย่างน้อยประชาธิปไตยทุกวันนี้ มันก็ดีกว่าเผด็จการแน่ๆ
3.ผมพูดอย่างนี้ ก็อาจมีคนย้อนกลับว่า แน่ล่ะเพราะผมได้ประโยชน์ เป็นสมาขิกวุฒิสภา ซึ่งอยู่ในสายพานสืบทอดอำนาจ ที่ถูกกล่าวหาอยู่ ก็ต้องพูดอย่างนี้ ผมเรียนว่าผมไม่ได้ออกตัว หรือแก้ตัวให้กับตัวเอง และใครทั้งนั้น แต่สิ่งที่ผมพูดมาและจะพูดต่อไป คือข้อเท็จจริง ที่ได้พิสูจน์ตลอดมา จึงอยากให้น้องๆ ลูกหลาน ได้ใช้ความอดทน อดกลั้น และพินิจพิจารณาให้รอบคอบ อะไร ตรงไหน ที่ยังเห็นว่าไม่เหมาะ ไม่ดี ก็อยากให้ใช้วิถีทาง และช่องทางที่มีอยู่ แก้ไขเปลี่ยนแปลง
การเดินออกไป หลั่งเหงื่อ หลั่งเลือด บนถนน โดยเฉพาะเหงื่อและเลือด ที่เป็นของลูกๆหลานๆนิสิต นักศึกษานั้น ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในขณะนี้ ครับ
4.เชื่อผมเถอะ รัฐบาลในขณะนี้ ไม่ได้ชั่ว หรือ เลวร้าย ถึงขนาดที่พวกน้องๆลูกหลาน จะตัดสินใจอย่างนั้น อย่างน้อยก็นายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาลขณะนี้ ท่านจะมีฝีมือมากน้อยอย่างไร ก็ถกเถียงกันไป แต่เขาก็นำพาบ้านเมืองนี้ ผ่านพ้นสภาพวิกฤติ ที่แทบล่มสลายมาแล้วและประคับประคองประเทศมาได้นทุกวันนี้
ที่สำคัญ ผมว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่เราวางใจได้ว่า ซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ใจ ตั้งใจทำเพื่อชาติ ไม่มีประวัติด่างพร้อย เรื่องโกงกิน คอร์รัปชัน ให้โจมตีได้ อย่างน้อยรัฐบาลนี้ก็ “หัวไม่ส่าย” ดังนั้นโอกาสที่หางจะกระดิกหรือส่ายตามนั้น คงยากหรือมีโอกาสน้อย ไม่เหมือนบางรัฐบาลที่ผมเห็นมาแล้ว เข้ามาแล้ว “หัวส่ายไม่หยุด” ส่ายนำ ส่ายไปก่อนเลย ซึ่งได้นำพาประเทศ ไปสู่ความเสียหาย ล่มจม อย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
5.และขอให้เชื่อเถอะว่า ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหนๆก็ตาม หากมีการโกงกิน คอรัปชั่น นำพาบ้านเมือง ไปสู่ความเสียหาย ย่อยยับอย่างที่ว่า ผมว่าคนไทยที่รักความถูกต้อง ความยุติธรรม ไม่ยอมแน่ๆและรับรองว่า ถึงเวลานั้น พวกเขาเหล่านั้น ไม่รอ หรือยุยง ปลุกปั่นให้ น้อง ๆหรือลูกหลาน ของพวกเขา ต้องเดินนำหน้า ออกมเคลื่อนไหว เสี่ยงอันตรายแน่ๆ แต่พวกเขาหรือคนที่ใกล้ๆจะลาโรงแบบพวกผมนี่แหละ ที่จะก้าวออกมาอยู่ข้างหน้าเอง รับรองไม่เอาเปรียบและกินแรงลูกๆหลานๆ ของพวกเราแน่ ๆ
แต่ขณะนี้ มองยังไง ก็ยังเห็นว่า ยังไม่ถึงเวลา ครับ.
