นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 63 โดยมีรายละเอียดดังนี้
สถิติสำคัญของการแพร่ระบาดของไวรัส
ผมได้มอบให้ทีมงานช่วยค้นคว้า ประวัติสถิติการระบาดของไวรัส ในอดีต ในช่วง 300 ปีที่ผ่านมา ขอรายงานให้ท่านแฟนเพจทั้งหลายได้ทราบโดยทั่วกัน ในลักษณะ”รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” ว่า
1 ระยะการแพร่ระบาดของไวรัสในรอบ 300 ปีนี้ มีสถิติที่คล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง และ เชื่อว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดน่าจะ เป็นรูปแบบเดียวกัน
2 ระยะที่ไวรัสขยายตัวรุนแรงและตื่นตกใจหรือแพนิคมากที่สุด คือระยะเวลา 3 เดือนนับแต่พบการระบาด จากนั้น การขยายตัวก็จะช้าลงและการตื่นกลัวก็จะค่อยๆหมดไป
3 ในขณะที่ไวรัสระบาดนั้น มนุษย์ ก็จะสัมผัสและเรียนรู้จักไวรัส โดยภูมิต้านทานของมนุษย์จะรู้จักคุ้นเคยและสร้างภูมิต้านทานไวรัส อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และในที่สุดก็สามารถต้านทานกับไวรัสได้ ให้ดูตัวอย่างไข้หวัดชนิดต่างๆแม้กระทั่ง ไข้หวัดซาหรือโรค HIV เป็นต้น ตอนนี้มีใครกลัวโรคเหล่านี้บ้าง
4 ประเทศจีนซึ่งเป็นจุดเริ่มระบาดของไวรัส เริ่มต้นในเดือนธันวาคม 2562 และพีคสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จากนั้นจีนควบคุมการแพร่ระบาดได้สำเร็จ
5 ประเทศไทยพบการระบาดของไวรัสโควิดในต้นเดือนมกราคม 2563 ดังนั้นโดยสถิติน่าจะพีคสุด ในเดือนมีนาคม 2563 นี้ จากนั้นก็จะลดลงแน่ ผมจึงได้เตือนสติมาแต่ต้นว่า ที่ว่าในวันที่ 15 เมษายนจะมีผู้ป่วยถึง 350,000คนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้
6 ขณะนี้ แม้ความตื่นกลัวไวรัสจะขยายตัวมาก ผมเชื่อว่าความจริงแล้ว คนไทยเกิดภูมิคุ้มกัน และภูมิต้านทานไวรัสเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย โดยอาศัยปัจจัย 2 อย่างคือ ภูมิต้านทานไวรัสหวัดของคนไทยที่สูงมาก และภูมิต้านทานไวรัสที่เกิดขึ้นใหม่ตามธรรมชาติ
7 ขอให้น้อมรำลึกถึงคำเตือนของสมเด็จพระสังฆราช ที่ว่า “สิ่งที่มองไม่เห็นนั้น อย่าคิดว่าไม่มี” ไวรัสโควิด เรามองไม่เห็นแต่มันก็มีอยู่ อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และรัตนปริตร เราก็มองไม่เห็น แต่ย่อมมีอยู่ ดังที่ปรากฏหลักฐานมาแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว แม้ในยุครัตนโกสินทร์ ก็มีหลักฐาน ในการสวดรัตนปริตร กำจัดโรคห่าหลายครั้ง
