‘กรณ์-นิพิฏฐ์’ หวดรัฐบาลเร่งหาเงิน-ลดงบกระทรวง 10% ช่วยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ก่อนถูกลอยแพ 1-2 ล้านคน

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันวันที่ 29 มี.ค. 2563 โดยมีเนื้อหาดังนี้

เพียงคืนแรกมีประชาชนลงทะเบียนขอความช่วยเหลือ 5,000 บาท กว่า 10 ล้านคน (ตัวเลข ณ เวลา 8.00 น.29 มี.ค.2663) ในขณะที่รัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้เพื่อ 3 ล้านคน

ขอยํ้าอีกครั้งครับว่า รัฐบาลต้องเพิ่มวงเงินเพื่อดูแลผู้เดือดร้อนให้ทั่วถึง ผู้เดือดร้อนมีมากกว่า 3 ล้านคนแน่นอน และรัฐบาลจะถูกกล่าวหาว่าคัดเลือกผู้ได้สิทธิอย่างไม่เป็นธรรม

และนี่ยังไม่นับถึงผู้ประกันตนตามมาตรา 33 อีกจำนวนมากที่ถูกลดเงินเดือน หรือถูกพักงาน และไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการของสำนักงานประกันสังคม โดยเฉพาะพนักงานกลุ่มภาคการท่องเที่ยว และบริการทั้งหมด

รัฐบาลให้สัญญาณว่าจะออก พรก.กู้เงินฉุกเฉิน 200,000 ล้านบาท

แต่ก่อนจะกู้เพิ่ม ผมขอเสนออีกครั้งว่า “รัฐควรปรับแผนการใช้เงินงบประมาณ และโอนงบที่ไม่เร่งด่วนหรือมีแนวโน้มว่าจะใช้ไม่ทันในปีงบประมาณมาเป็นเงินทุนเพื่อดูแลประชาชนให้ทั่วถึง ทุกกระทรวง กระทรวงละ 10% ได้เพิ่มอีกประมาณ 3 แสนกว่าล้าน”

วินัยทางการคลังยังสำคัญ ทุกคนเชียร์ให้รัฐบาลช่วยเหลือประชาชน แต่ต้องใช้เงินภาษีให้เหมาะสมที่สุดในยามนี้

ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัตื รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ในประเด็นเดียวกัน โดยมีเนื้อหาดังนี้

ผู้ประกันตน ตามม.33

เมื่อตอนเช้า ผมโทรหาคุณกรณ์ จาติกวณิช แลกเปลี่ยนความเห็นกันเรื่องลูกจ้างผู้ประกันตนตามม.33 ตามความเห็นผม ลูกจ้างกลุ่มนี้ จำนวน 1-2 ล้านคน(โดยประมาณ) ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการของรัฐบาล คุณกรณ์เห็นด้วยกับผมและเห็นต่อไปว่าควรใช้งบประมาณของรัฐแทนที่จะใช้งบกองกองทุนประกันสังคม ผมไม่ติดใจว่าจะใช้งบประมาณรัฐบาลหรือใช้งบกองทุนประกันสังคม เพียงแต่ต้องช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ เงินมาจากไหนผมไม่ติดใจ

หากไม่ช่วยแรงงานกลุ่มนี้อีก 1-2 ล้านคน(โดยประมาณ) จะมีการเคลื่อนย้าย-เดินทางอีกครั้งหนึ่ง และจะลำบากในวิกฤตินี้ ปัญหาก็จะตามมา แม้ผมกับคุณกรณ์ จะอยู่ต่างพรรคกันแล้ว แต่เรื่องนี้เราเห็นตรงกันกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา & กระทรวงแรงงาน รีบแก้ปัญหานะครับ