รองแม่ทัพเพื่อไทย เสนอล้วงกองทุนประกันสังคม 2.2 ล้านล้านบาท เยียวยาแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ

เมื่อ 12 เม.ย. 2563 นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอแนวทางต่อรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยเห็นว่า “แรงงานทั้งในระบบ และ นอกระบบ ก็ควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเช่นกัน”

นายนคร ระบุว่ารัฐบาลนี้จัดทำงบประมาณปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้าน โดยเป็นงบประมาณขาดดุลคือกู้ ประมาณ 5 แสนล้านตั้งงบกลางไว้ 5.18 แสนล้าน 2 เดือนถัดมาเกิดการแพร่ระบาดโควิด 19 รัฐบาลได้ออก พรก. กู้เงินอีก 1.9 ล้านล้าน ปี 63 รัฐบาลนี้จึงกู้รวม 2.5 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นภาระหนี้สินที่พวกเราคนไทยทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ต่อต้าน มีแต่ทักท้วงให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้เงิน เร่งรัดช่วยคนไทยทุกสาขาอาชีพให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ให้ทันท่วงทีก่อนที่คนไทยบางส่วนจะอดตาย

นายนครว่า แรงงานในระบบ ตาม พรบ. ประกันสังคม มาตรา 33 ประมาณ 12 ล้านคน แรงงานนอกระบบ ตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 อีกหลายล้านคน รวมแรงงานในระบบและนอกระบบทั้งหมดเกือบ 40 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันมีเงินกองทุนประกันสังคมอยู่ประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท อยากให้รัฐบาลพิจารณา

  1. รัฐบาลไม่ควรเลือกปฏิบัติช่วยเหลือ ชดเชย เยียวยาให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ควรชดเชยให้ทุกคนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ มาก น้อยตามจำนวนเงินที่มี เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบหนี้สินที่รัฐบาลก่อขึ้นทุกคน และต้องไม่เอาผิด หรือข่มขู่คุกคามว่าแจ้งเท็จกับประชาชน
  2. รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้แรงงาน ซึ่งเป็นเจ้าของกองทุนประกันสังคมสามารถใช้สิทธิกู้เงินจากสถาบันการเงินของรัฐโดยใช้สิทธิวงเงินประกันสังคมของตนเป็นหลักประกัน เช่นเดียวกับข้าราชการที่ใช้เงิน ช.พ.ค.เป็นหลักประกันในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน อันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงสิทธิของแรงงานเพื่อให้แรงงานทุกคน ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนสามารถฝันฝ่าข้ามพ้นวิกฤติไปด้วยกัน.