ส.ว.วันชัย วอน ‘เลิกทะเลาะเบาะแว้ง’ แนะฝ่ายการเมืองปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “สภาใกล้จะเปิดแล้ว เห็นว่าห้องประชุมทั้งส.ส. ส.ว.พร้อมแล้ว ทั้งอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือก็พร้อมต่อการประชุม รวมทั้งห้องประชุมคณะกรรมาธิการแต่ละคณะก็พร้อมเช่นกัน มีความสะดวก มีความทันสมัยต่อการทำงานของรัฐสภา แต่ว่าฝ่ายการเมืองทุกภาคส่วนพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองที่เป็นไปทั่วโลกหรือไม่ ยังเห็นท่าทีทางการเมืองแบบเดิมๆดำรงอยู่ในสถานการณ์โควิด หยิบประเด็นหาเรื่องกันไปเรื่อย เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าที่จะร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

เช่นกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะมีหนังสือเชิญมหาเศรษฐีของประเทศ 20 คนมาปรึกษาหารือ ร่วมกันแก้ปัญหาทั้งเยียวยาและฟื้นฟู นักการเมืองบางคน บางพรรคก็เอาไปต่อความยาวสาวความยืด จับประเด็นพลิกไปพลิกมาหาเรื่องโดยไม่เข้าท่า เป็นการเล่นการเมืองในสถานการณ์นี้ที่น่าเกลียดน่าตำหนิอย่างยิ่ง ไม่เหมาะกับกาละเทศะอย่างมาก รู้ทั้งรู้ว่าในสถานการณ์นี้ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนทุกระดับ โดยเฉพาะภาคการเมืองก็มีเวทีสภาในการแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว ในภาคอื่นๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรจะทำอย่างยิ่ง ทุกคนต้องมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการแก้วิกฤตในครั้งนี้

ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทั้งส.ส. ส.ว. และฝ่ายการเมืองทุกภาคส่วนต้องเป็นหลักต่อการเปลี่ยนแปลงและเป็นหลักอย่างยิ่งต่อการแก้ปัญหานี้ การทะเลาะเบาะแว้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การต่อปากต่อคำ การหาเรื่องหาประเด็นเล่นกันทางการเมืองต้องยุติได้แล้ว สถานการณ์นี้หมดเวลาแล้วที่เราจะเล่นการเมืองกันแบบเดิม ที่เห็นกันก่อนปิดสมัยประชุมนั้นมันน่าจะจบไปพร้อมโควิดได้แล้ว ยุคนี้สมัยนี้ต้องเป็นเรื่องจริงของจริง ต้องไม่เอาการเมืองมาเล่นกัน ไม่อย่างนั้นประชาชนผู้เดือดร้อนเขาจะรื้อเวทีทางการเมือง

อย่างที่เรารู้ ความเดือดร้อน ความอดอยาก ความหิว ไม่เคยปราณีใคร ภาคส่วนที่นำทางสังคมคือการเมือง ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน รองรับต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถานการณ์นี้ ทั้ง ส.ส. ส.ว. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้งกรรมาธิการทุกคณะต้องปรับบทบาทร่วมกันต่อการแก้ปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการต้องทำงานควบคุมตรวจสอบในการบริหารราชการแผ่นดินต่อการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน เลิกทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างที่เห็นๆ มีกรรมาธิการหลายคณะที่เกี่ยวข้องต่อเรื่องที่แก้ปัญหาเหล่านี้ ต้องทำงานด้วยรูปแบบใหม่ วิธีการใหม่ ให้เป็นเนื้องานที่ประจักษ์มากกว่าที่จะเป็นข่าวไปวันๆ… แม้จะมีสภาใหม่ ห้องประชุมใหม่แล้ว แต่ยังทำงานการเมืองกันเหมือนเดิมก็น่าจะไปไม่รอด”