‘อดีตกรรมการสิทธิ-อังคณา’ ชื่นชมรัฐบาลให้การดูแลรักษาผู้ต้องกักที่ติดเชื้อทุกคน แม้บุคคลเหล่านี้จะไม่ใช่คนไทย

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit โดยมีรายละเอียดเนื้อหาดังนี้ #COVID19_IDC กรณีที่วันนี้ศูนย์ข้อมูล COVID19 ได้แถลงมีการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงเชิงรุก และพบผู้ติดทั่วไปใหม่ 11 คน และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในห้องกักสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สะเดา จังหวัดสงขลา จำนวน 42 คน โดยไม่กี่วันก่อนหน้านี้มีการตรวจพบเจ้าหน้าที่ สตม. สะเดาติดเชื้อและอยู่ระหว่าง State Quarantine

เรื่องการแพร่ระบาดอย่างมาก (pandemic) ในสถานที่กักเป็นความห่วงกังวลของหลายฝ่ายมาโดยตลอด ที่ผ่านมาข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ Michelle Bachelet ก็ได้เคยออกมาแสดงความกังวลและเรียกร้องประเทศต่างๆให้มีมาตรการป้องกันการระบาดของ COVID19 ในเรือนจำและสถานที่กักต่างๆทั่วโลก เนื่องจากห้องกัก และเรือนจำเป็นพื้นที่ปิดจึงยากแก่การกักตัว (self-isolation) หรือการทำ physical distancing เพราะเรือนจำและห้องกักมักความแออัดมาก ดังนั้นหากเกิดการระบาดขึ้นอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้

ขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ยืนยันให้การดูแลรักษาผู้ต้องกักที่ติดเชื้อทุกคน แม้บุคคลเหล่านี้จะไม่ใช่คนไทย แต่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐต้องมีมาตรการช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน ผู้ต้องกักส่วนมากเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายแต่ต่อมาเมื่อเอกสารหมดอายุจึงกลายเป็นผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย หลายคนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทาง หรือเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ได้ด้วยเหตุผลต่างๆกัน จึงทำให้ต้องถูกกักอย่างไม่มีกำหนด โดยเรื่องนี้ต้องขอชื่นชมรัฐบาลอีกครั้งในความพยายามแก้ปัญหาผู้อพยพ (Refugees) ผู้แสวงหาที่พักพิง (Asylum Seekers) โดยมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 เห็นชอบ #ร่างระเบียบคณะรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ พ.ศ. … หลังจากเมื่อต้นปี 2562 รัฐบาลได้ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ #ยุติการกักตัวเด็กที่ติดตามผู้ปกครองเพื่อแสวงหาที่พักพิง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ หวังอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะได้ออกระเบียบนี้โดยเร็วเพื่อให้ทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ในช่วงที่ตัวเลขการติดเชื้อทั่วไปในประเทศลดลง ถือเป็นช่วงเวลาดีที่รัฐบาลจะรีบเร่งสแกนบรรดาบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่างๆให้มากขึ้นเพื่อป้องกันการระบาดรอบใหม่ดังที่ได้เกิดขึ้นในหลายประเทศ

มีโอกาสไปเยี่ยมห้องกัก สตม. สะเดาหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 62 กับ กมธ กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ขอฝากกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และผู้ต้องกักให้สามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ค่ะ