‘รังสิมันต์’ ทวงสัญญา ผบ.ทบ. ปฏิรูปกองทัพ กับกรณีสิบเอกที่เปิดโปงทุจริตถูกขู่เอาชีวิต

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม โดยมีรายละเอียดเนื้อหาดังนี้

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ยินเรื่องราวของ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี นายทหารที่ออกมาเปิดโปงขบวนการโกงเงินเบี้ยทหารชั้นผู้น้อยภายในศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งกระทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 เป็นอย่างน้อย

ส.อ.ณรงค์ชัยพยายามร้องเรียนต่อหน่วยงานภายในกองทัพ ปรากฏว่าเขาถูกสอบสวนวินัยอยู่เพียงฝ่ายเดียว จนต้องยอมเสี่ยงออกจากค่ายมาขอความช่วยเหลือทั้งจากผู้มีปากเสียงในสังคม ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือแม้กระทั่ง ป.ป.ช.

สิ่งที่เขาควรได้รับคือการให้ความคุ้มครองในฐานะพยาน แต่สิ่งที่เขาได้รับในความเป็นจริงกลับเป็นคำขู่จากผู้บังคับบัญชาว่าจะให้เขาตายในห้องขัง

เรื่องดังกล่าวทำให้ผมย้อนนึกถึงภายหลังจากเหตุการณ์จ่าทหารก่อเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) เป็นเหตุสะเทือนขวัญผู้คนทั้งประเทศ ผมได้ยิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาประกาศว่าจะดำเนินการปฏิรูปกองทัพภายใน 90 วัน

ผมเห็นกองทัพตีฆ้องร้องป่าวว่าจะริเริ่มสะสางปัญหาต่างๆ เช่น การจัดระเบียบธุรกิจของกองทัพที่จะให้กรมธนารักษ์มาช่วยดูแล การขีดเส้นให้นายทหารเกษียณย้ายออกจากบ้านพัก หรือการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียนปัญหาต่อ ผบ.ทบ. ได้โดยตรง

แม้เป็นเรื่องยากยิ่งที่สังคมจะยอมเชื่อคำของผู้นำกองทัพได้ เนื่องจากที่ผ่านมาศรัทธาที่ประชาชนมีต่อทหารนั้นแทบมลายสิ้นไปแล้วด้วยน้ำมือของทหารเอง หลายคนเลือกที่จะไม่คาดหวัง แต่สำหรับผมแล้วยังคงเผื่อใจอยู่ลึกๆ ถึงโอกาสหนึ่งในล้านที่ พล.อ.อภิรัชต์จะตระหนักและเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ

ทว่าถึงตอนนี้ เหลืออีกไม่เพียง 2 สัปดาห์ก็จะครบกำหนด 90 วันที่ พล.อ.อภิรัชต์รับปากไว้ นอกจากเราจะไม่ได้เห็นความคืบหน้าอะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมาจากกองทัพแล้ว เรากลับยังต้องเห็นถึงความโหดร้ายที่ ส.อ.ณรงค์ชัยต้องเผชิญ ซึ่งผมก็ได้ทราบมาว่า ส.อ.ณรงค์ชัยพยายามร้องเรียนผ่านคอลเซ็นเตอร์ถึง พล.อ.อภิรัชต์ไปแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ก็หาได้มีผู้นำพาไม่

ไหนกันการปฏิรูปกองทัพของ พล.อ.อภิรัชต์? ใยจึงปล่อยให้นายทหารผู้สุจริตเที่ยงธรรมต้องประสบชะตากรรมอันยากเข็ญเช่นนี้ได้?

แม้ว่าเวลานี้สังคมจะให้ความสนใจกับเรื่อง COVID-19 เป็นหลัก แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่ยืนยันเรื่องการปฏิรูปกองทัพมาโดยตลอด ผมไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปได้ โดยสำหรับประเด็นการทุจริตคอร์รัปชันนั้นผมทราบว่า ส.อ.ณรงค์ชัยได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการทหารและคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของสภาผู้แทนราษฏรแล้ว ส่วนเรื่องการข่มขู่คุกคามนั้นมีความเกี่ยวข้องกับงานของคณะกรรมการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนโดยตรง ผมในฐานะกรรมาธิการจะขอนำเรื่องนี้หารือต่อที่ประชุมต่อไป

อย่างไรก็ตามการติดตามเรื่องผ่านคณะกรรมาธิการฯ อาจไม่สามารถทำได้โดยเร็วนัก ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตัว ส.อ.ณรงค์ชัยที่ตอนนี้ยังต้องอยู่อย่างระมัดระวังและไม่ได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัด ผมจึงขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อภิรัชต์ในฐานะ ผบ.ทบ. ให้ตั้งคณะกรรมการของกองทัพบกเพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งการสอบสวนจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสและเปิดให้หน่วยงานภายนอกและสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดได้ทั้งหมด รวมถึงสร้างหลักประกันความปลอดภัยให้กับ ส.อ.ณรงค์ชัย ด้วยตำแหน่งของท่านเองเป็นเดิมพัน

และหากพบว่า ส.อ.ณรงค์ชัยได้รับอันตรายแต่ประการใดแล้ว ผมยืนยันว่าจะนำตัว พล.อ.อภิรัชต์และนายทหารที่เกี่ยวข้องกับกรณีทั้งหมดทุกนาย ซึ่งผมสามารถสืบทราบได้ว่าเป็นใครบ้าง มาแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าผู้แทนราษฎรให้ได้อย่างแน่นอน