คอลัมนิสต์ชื่อดัง ฟันธง ‘ธนาธร’ เสียตำแหน่ง ‘นายกฯโซเชียล’ ให้ ‘เสี่ยโป้’ แล้ว

คอลัมนิสต์ชื่อดัง ‘เปลว สีเงิน’ เจ้าของคอลัมน์คนปลายซอย ในหนังสื่อพิมพ์ไทยโพสต์ ได้เขียนบทความเรื่อง ‘นิวประยุทธ์-นิวรัฐบาล’ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ https://www.plewseengern.com/ เมื่อ 7 พ.ค.2563 โดยคอลัมนิสต์ชื่อดัง เขียนไว้ช่วงหนึ่งว่า พูดกันตามสภาพเป็นจริง

ถึงวันนี้…….

การเชิดตัวเองเป็นตัวแทน “คนรุ่นใหม่” ในทางการเมืองของ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์”

มันเฟก

และ “จบบริบูรณ์” ทางกฎหมายและทางการบ้าน-การเมืองไปแล้ว ตั้งแต่ ๒๑ กุมภา.๖๓ เมื่อองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติว่า……

“การที่นายธนาธรให้เงินกู้ยืมพรรคจำนวนมาก ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำพรรค บงการพรรค เป็นธุรกิจการเมือง

มีเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคตามมาตรา ๖๖ ทำการฝ่าฝืนมาตรา ๗๒ เป็นเหตุให้สั่งยุบพรรค”

ขนาดนี้แล้ว ….

แทนที่ “สามมะกอก” จะสำนึกและละอายที่คล้ายถูกจับแก้ผ้ากลางแดดครั้งแล้ว-ครั้งเล่า จากโกหกแล้วถูกสังคมจับได้

กลับหนังหนา-หน้าด้าน

มีแสงแค่แดงเหมือนตูดยุง เห็นคนชื่นชอบรัฐบาลแจกเงินคนตกงานจากโควิด ก็เบ่งพองหวังเทียบเท่า และเกทับ

จัดคอนเสิร์ต ไลฟ์สด เรี่ยไรแจกมั่ง

ที่จริง วงการ “โคส้ม-โคแดง” ก็เห็นไส้ เห็นพุงกันอยู่ ที่เฮกันไป-เฮกันมา ใช่ว่าศรัทธารุ่นใหม่-รุ่นเก่า

หากแต่มันเป็นประชาชนหน้าม้า “ประชาธิปไตยหลอกแดก” เป็นอาชีพด้วยกันทั้งนั้น

มีหน้าที่ “รับจ้าง-รับแจก”

แล้วนี่จัดคอนเสิร์ตตกปลาในบ่อ ก็รวยเป็นหมื่นๆ ล้าน ควัก ๑๐ ล้าน ๑๐๐ ล้าน แจกเองคนละ ๓ พันตามโว เมียไม่ด่าหรอก

การเบ่งบารมีด้วยไถคนกันเอง มันผิดอุดมการณ์คนประชาธิปไตยรับจ้าง รู้มั้ย

จึงกะร่อง-กะแร่งแค่ ๗ ล้าน ซึ่งนั่นถือว่า เป็นเงินมาแบบอวตารแล้วล่ะ รู้ไว้ด้วย!

แล้วเป็นไง โวโอ้อวด ไลฟ์สดคนเปิดดูกว่า ๑๓ ล้านครั้ง ถ้าเป็นรุ่นใหม่ ด้วยใจศรัทธาพ่อฟ้าจริง

แค่โยนให้คนละบาท ก็ได้ตั้ง ๑๓ ล้านบาทแล้ว

แต่นี่ ตะบี้-ตะบันเบ่งพองตัวแข่งถึง ๒ วัน รูทวารแทบฉีก ได้แค่ ๗ ล้านกว่า กับความกลับกลอก-หลอกไป-หลอกมา แก้ตัว, แก้ผ้า, แก้กติกา

ลบนั่น-ลบนี่ สับสนวุ่นวายกัน ๒ คน “ทอนกะช่อ”!

จนป่านนี้ กะเงินแค่ ๗ ล้าน ยังสรุปไม่ได้ว่าไปไง-มาไง กับที่ประกาศไว้ “๓,๐๐๐ ได้ทุกคน”?

“ขอโทษ…รู้เท่าไม่ถึงการณ์…บกพร่องโดยสุจริต…ถูกอำนาจเผด็จการกลั่นแกล้ง”

เลือกเอาวลีหนึ่งที่ถนัดปากนะทอน เพื่อหอนแก้ตัว!

ถามตรงๆ เถอะ….

ทั้งสามมะกอก ไม่เขินเลยหรือ ที่ยกตัวเองเป็น “คนรุ่นใหม่”?

ปีนี้ทอนอายุเท่าไหร่ เกิดพฤศจิกา. ๒๑ นี่ปี ๖๓ โห…ก็ตั้ง ๔๒ แล้ว พูดถึงรุ่นตามอายุ

….ใกล้หงอกแล้วนะ!

และถ้าพูดถึงอันดับชั้น ทอนวันนี้ คู่แข่งทางอำนาจ-วาสนา-บารมี อย่าไปเผยอถึงระดับ “พลเอกประยุทธ์” เลย

“ทอน” แข่งได้แค่ “เสี่ยโป้” เท่านั้น

ถ้าทำโพลตอนนี้ ทอนเสียตำแหน่ง “นายกฯ โซเชียล” ให้เสี่ยโป้แล้วด้วยซ้ำ!

ปิยบุตร เกิดตุลา.๒๒ ปีนี้ ๔๑ ขวบ ยังจะตีตั๋วเด็กเป็นรุ่นใหม่ รุ่นใหม่จริงๆ ทุกวันนี้ เป็น “รุ่นใหม่มีสาระ”

มีแต่พวกแอ็บเด็ก นอกจากไร้สาระ ยังเป็นขยะอีกตะหาก

อนาคตทางการเมืองของปิยบุตร ไม่อยากบอกว่าจะเหมือน “แซ็ง-ฌุสต์”

เพราะแซ็ง-ฌุสต์ ขึ้นต้นเป็นพระเอกล้มกษัตริย์ ลงท้ายเป็นทรราช ถูกประชาชนตัดหัวสนองด้วยกิโยติน

เอาเป็นว่า เส้นทางรุ่งสุดของปิยบุตร ก็แค่ “วรัญชัย ๒”

วรัญชัยเป็นครูเทศบาลมาก่อน ก็พอดีกัน ปิยบุตรก็เป็นอาจารย์มหา’ลัยมาก่อน เป็นตัวตาย-ตัวแทนกันได้ในอนาคต

ส่วนช่อนี่….

ปีนี้ ๓๒ “ครึ่งใหม่-ครึ่งตะไคร่ขึ้น”

ก้ำกึ่ง ระหว่างป้าธิดากับป้ามุด ว่าจะอยู่ในร่างทรงไหน เพื่อตามหาประชาธิปไตย ๒๕๗๕ แข่ง “บุพเพสันนิวาส ภาค ๒”?

ก็บอกทางไปให้ทั้งสามมะกอกแล้ว อยู่ที่ตัดสินใจเลือก จะเถลือกไถลในทางที่ไม่ใช่ต่อ หรือหยุด…กลับใจคืนฟากฝั่ง

2475 รหัสที่ตามหา มันไม่มีหรอก

มีแต่ 55555555!!!!!! (ขำพวกมึงว่ะ)

ทำไมผมจึงบอกอนาคตของสามมะกอกไม่มีแล้วน่ะหรือ?

ก็เพราะ พลเอกประยุทธ์ ด้วยบทบาทในหน้าที่นายกรัฐมนตรี ผู้นำทางบริหารและปกครองประเทศไทย

เขาเปลี่ยนแล้ว

เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนบุคลิกนิสัยเคยชิน สู่วิสัยทัศน์-โลกทัศน์ใหม่ ในทางบริหารและปกครอง

ในขณะที่ สามมะกอก ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย!

ใหม่ในเฟกอย่างไร ก็เฟกคงที่อย่างนั้น ถ้าเหลียวมองหลัง ก็จะเห็น บรรดาลูกฟ้าหน้าอ่อน-หน้าแก่ ที่เคยแห่ห้อมตอมหน้า-ตามหลัง เป็นหางยาวเฟื้อย

ตอนนี้ “หางด้วน”

เหลือแค่พวกผีคาป่าช้า ไปไหนก็ไม่มีที่ไป เป็นปลิงเกาะโหนกินระหว่างพรรคกับรั้วมหา’ลัยกระหยิบหนึ่ง!

มันจบแล้ว….จบจริงๆ อ่านฉบับเต็ม