‘วัฒนา’ ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลจะยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน และใช้เวลา 6 เดือนเยียวยาคนไทยเป็นรายครัวเรือนละ 10,000 บาทต่อเดือน

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุีกเมื่อ 15 พ.ค. 2563 ระบุว่า วานนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1 คน ทำให้จำนวนรวมของผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั้งประเทศ 3,018 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 112 คน ตาย 56 คน เท่ากับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 0.005% ส่วนยอดคนตายมีน้อยกว่า 7 วันสงกรานต์นับสิบเท่า แต่รัฐบาลยังฉวยโอกาสคงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไว้

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าโควิด-19 คือรัฐบาลประยุทธ์ที่กำลังใช้โควิดเป็นแพะรับบาปกลบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่คนไทยต้องฆ่าตัวตายมาก่อนเกิดการแพร่ระบาดแล้ว และกำลังจะใช้เป็นข้ออ้างในการปิดประเทศต่อเพราะกลัวคนออกมาไล่ วันนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติที่การสาธารณสุขไทยรองรับได้ รัฐบาลควรยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ล่มสลายอีกรอบเพราะการล็อคดาวน์ประเทศ

โอกาสที่มาพร้อมกับโควิดคือความได้เปรียบของไทยที่จะกลายเป็นศูนย์กลาง (hub) ของคนกลัวตาย อุตสาหกรรมอาหาร การท่องเที่ยวและบริการซึ่งรวมถึงด้านการแพทย์ และอสังหาริมทรัพย์จะเป็นที่ต้องการของโลก หน้าหนาวของไทยจะกลายเป็นสวรรค์ที่คนกลัวตายซึ่งมีเงินจะหนีมาพักเพื่อท่องเที่ยวและทำงาน ทั้งหมดคือสิ่งที่ผมพูดมาตลอดตั้งแต่เกิดโควิดที่รัฐบาลควรใช้เวลาจากนี้ไปเตรียมตัวเพื่อรองรับโอกาสที่จะมาในช่วงสิ้นปีนี้และต้นปีหน้า

ถ้าผมเป็นรัฐบาลผมจะยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินและใช้เวลา 6 เดือนเพื่อเตรียมการ โดยจะเยียวยาคนไทยเป็นรายครัวเรือนๆ ละ 10,000 บาทต่อเดือน ประมาณ 20 ล้านครัวเรือนใช้เงินประมาณไม่เกินเดือนละ 200,000 ล้านบาทรวม 6 เดือนเพื่อสร้างกำลังซื้อเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจให้เกิดการบริโภคภายใน พร้อมกันนั้นจะจับมือกับประเทศคู่ค้าการท่องเที่ยวเช่น จีน ญี่ปุ่น และประเทศทางตะวันตกเพื่อกำหนดมาตรฐานด้านสาธารณสุขของคนที่จะเข้ามาในประเทศ เสริมสร้างสมรรถนะ (capacity building) คนไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่กล่าวข้างต้น และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านสาธารณสุข

บางส่วนที่กล่าวมาผมพูดไปบ้างแล้วและจะพูดอีกครั้งในงานเสวนา “อนาคตประเทศไทยหลังโควิด-19” ของพรรคเพื่อไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม เวลา 13.30-15.30 น. รัฐบาลก็ติดตามรับฟังได้ไม่เก็บเงิน.