‘ศรีสุวรรณ’ จ่อร้อง สตง. สอบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่อพิรุธโครงการสูบน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 418 ล้าน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เปิดให้มีการยื่นประมูลโครงการก่อสร้างระบบสูบน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 โครงการ โดยโครงการแรกมีพื้นที่ดำเนินการ 57 แห่ง ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1 เขต 2 เขต 5 และเขต 10 มูลค่า 206,555,700 บาท โดยกำหนดยื่นซองเมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 ส่วนโครงการที่สองมีพื้นที่ดำเนินการ 70 แห่ง ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1 เขต 2 เขต 5 เขต 7 เขต 10 และเขต 11 มูลค่า 212,408,000 บาทโดยกำหนดยื่นซองเมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 ที่ผ่านมา รวมมูลค่าทั้งสองโครงการทั้งสิ้น 418,963,700 บาทนั้น

จากการตรวจสอบการประกวดราคาดังกล่าวมีข้อพิรุธหลายประการ อาทิ การเขียนทีโออาร์ (TOR) ในลักษณะคล้ายการล็อกสเป็คไว้หลายชั้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการบางรายที่กำหนดกันไว้แล้วล่วงหน้า เช่น 1)การต้องส่งตัวอย่างอุปกรณ์ภายใน 3 วันทำการถัดจากวันยื่นราคา เป็นการส่อพิรุธถึงงานจ้างเหมาก่อสร้างที่ไม่ใช่งานจัดซื้อ แต่กลับให้ส่งตัวอย่างมากมายหลายชิ้น แต่ละชิ้นเป็นของที่หาไม่ได้ในตลาดซื้อขายทั่วไป 2)มีการกำหนดครุภัณฑ์ที่ไม่มีในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์และไม่มีขายในท้องตลาดทำให้กำหนดราคากันเองตามใจชอบ 3)การกำหนดเวลาการแล้วเสร็จของงานเพียง 75 วันนับแต่วันทำสัญญา ซึ่งไม่มีทางที่ผู้รับเหมาจะทำงานสำเร็จได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากการทดสอบดินต้องใช้ระยะเวลากว่า 20 วันก่อนที่จะก่อสร้างฐานหอถังน้ำ การรอคอนกรีตเซ็ตตัวอีกไม่น้อยกว่า 15-20 วัน ซึ่งจะเหลือเวลาการทำงานก่อสร้างส่วนที่เหลือไม่ถึง 30 วัน ซึ่งการกำหนดระยะเวลาสั้นเช่นนี้ไม่มีทางที่ผู้ประกอบการรายใดจะทำได้ทัน ต้องถูกปรับแน่นอน ยกเว้นจะมีการเตรี๊ยมกันไว้แล้วกับบริษัทที่ล็อคไว้ โดยการอ้างเหตุฉุกเฉินเพื่อขยายระยะเวลาให้ หรือแสร้งส่งมอบพื้นที่ให้ล่าช้า เพื่อนำมาใช้เป็นข้ออ้างเท่านั้น

การประกวดราคาดังกล่าว อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการบางรายที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งในวงการต่างรู้ดีว่าเป็นบริษัทใดบ้าง สามารถเขียนแปะข้างฝาไว้ได้เลยว่าเป็นบริษัทใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อแนวทางปฏิบัติที่คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ (คณะกรรมการวินิจฉัย) โดยได้รับการมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ม.8 วรรคหนึ่ง (2) ที่บัญญัติให้การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐต้องโปร่งใส โดยต้องกระทำโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ ฯลฯ

การกระทำดังกล่าว เพื่อความโปร่งใสสมาคมฯจำต้องนำความไปร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พรป.การตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ในการตรวจสอบข้อพิรุธต่าง ๆ ดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซ.อารีย์ เขตพญาไท และหลังจากนี้สมาคมฯจะเฝ้าติดตามตรวจสอบต่อไปว่าบริษัทที่ประมูลงานได้ทั้งหมดจะสามารถส่งมอบงานได้ภายใน 75 วันได้หรือไม่ เพื่อพิสูจน์ข้อพิรุธดังกล่าว