ไม่จบ ‘เด็กหมอระวี’ จ่อร้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน ‘อสส.’ สั่งไม่อุทธรณ์คดี ‘โอ๊ค’ ฟอกเงินแบงก์กรุงไทย

นายจาตุรันต์  บุญเบ็ญจรัตน์ โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ ที่มีนายแพทย์ระวี  มาศฉมาดลส.ส. บัญชีรายชื่อเป็นหัวหน้าพรรคกล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุด(อสส.) มีคำสั่งชี้ขาดไม่ยื่นอุทธรณ์คดีหมายเลขดำอท.245/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้  ชินวัตรคดีกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน10 ล้านบาทจากเหตุที่ธ.กรุงไทยฯอนุมัติสินเชื่อให้เครือกฤษดามหานครว่าตนรู้สึกผิดหวังในการทำหน้าที่ของทนายแผ่นดินที่ยอมยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่ยกแรกทั้งที่มีโอกาสสู้ในยกต่อไปและขอตั้งคำถามไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุดว่าท่านได้ใช้ดุลยพินิจที่อยู่บนรากฐานความสมเหตุสมผลในการพิจารณาไม่อุธรณ์ในคดีนี้แล้วหรือไม่ทั้งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอซึ่งเป็นเจ้าของคดียังมีความเห็นให้นำคดีนี้ขึ้นสู่ศาลสูงเพื่อให้การต่อสู้คดีนี้เดินหน้าไปตามกระบวนการยุติธรรม

นายจาตุรันต์ กล่าวต่อว่าศาลคดีอาญาทุจริตฯยังขยายระยะเวลาในการยื่นอุธรณ์คดีนี้ไปจนถึงวันที่25 มิ.ย. 2563 ยังเหลือเวลาอีกหลายวันเหตุใดจึงเร่งรีบรวบรัดตัดตอนแถมยังใช้ช่วงเวลาที่ท่านอัยการสูงสุดเดินทางไปราชการโดยให้รองอัยการอันดับ1 ลงนามแทนยิ่งทำให้สังคมเกิดความกังขาในการทำหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดในครั้งนี้ขึ้นไปอีก

“การแพ้แบบหมดรูปในครั้งนี้ภาษามวยเขาเรียกว่าชกไม่สมศักดิ์ศรีหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกปรามาสได้ว่าการสู้ครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังประชาชนอาจตั้งข้อสังเกตุว่ามีการล้มมวยหรือไม่ด้วยเหตุนี้ทางพรรคพลังธรรมใหม่ได้รับฟังถึงข้อสงสัยจากประชาชนคนไทยถึงการทำหน้าที่ของทนายแผ่นดินในครั้งนี้

จึงขอรวบรวมข้อโต้แย้งในแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีพร้อมความเห็นให้นำคดีขึ้นสู่ศาลสูงของดีเอสไอไปยื่นร้องต่อศาลปกครองสูงสุดในวันจันทร์ที่1 มิ.ย.เวลา10.00 น.เพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉินระงับคำสั่งที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฏหมายและที่สำคัญการตัดสินใจครั้งนี้ยังมีความเคลือบแคลงจากสังคมถึงการทำหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นจำนวนมากอีกด้วย”นายจาตุรันต์กล่าว